สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันนี้ (14 ธ.ค.) ว่า บริษัทคันทรี การ์เดน ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน ประกาศขายหุ้นในบริษัทลูกของต้าเหลียน ว่านต๋า กลับคืนให้กับต้าเหลียน ว่านต๋า กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ด้วยมูลค่าประมาณ 428 ล้านดอลลาร์ โดยเงินที่ได้จากการขายหุ้นดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศของคันทรี การ์เดน
ทั้งนี้ การขายหุ้น 1.79% ในบริษัทจูไห่ ว่านต๋า คอมเมอร์เชียล เมเนจเมนท์ ผู้บริหารศูนย์การค้า คืนให้แก่ต้าเหลียน ว่านต๋า คอมเมอร์เชียล เมเนจเมนท์ กรุ๊ป ช่วยให้หุ้นของคันทรี การ์เดน พุ่งขึ้น 3% ในการซื้อขายวันนี้
นอกจากนี้ ราคาหุ้นยังพุ่งขึ้นหลังจากที่คันทรี การ์เดนซึ่งผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรต่างประเทศมูลค่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ได้ชำระเงิน 800 ล้านหยวนให้แก่ผู้ถือพันธบัตรภายในประเทศเมื่อเร็ว ๆ นี้ ตามเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์เมื่อช่วงเย็นวันพุธ (13 ธ.ค.)
ต้าเหลียน ว่านต๋า กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดของจีน ก็ประสบปัญหาทางการเงินเช่นเดียวกับคันทรี การ์เดน ถึงแม้ว่าจะยังไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ดอกเบี้ยพันธบัตรใด ๆ ก็ตาม แต่ก็เป็นที่จับตามองว่าต้าเหลียน ว่านต๋า จะเจรจากับกลุ่มนักลงทุนในจูไห่ ว่านต๋า ซึ่งรวมถึงคันทรี การ์เดน ได้สำเร็จหรือไม่ โดยนักลงทุนกลุ่มนี้ได้รับการสัญญาว่า หุ้นมูลค่า 4 หมื่นล้านหยวนของพวกเขาจะถูกซื้อคืน หากจูไห่ ว่านต๋า ไม่สามารถทำ IPO ในตลาดหุ้นฮ่องกงได้ภายในปีนี้
อนึ่ง จูไห่ ว่านต๋า ดูแลศูนย์การค้า 494 แห่งในจีน แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของห้างที่ดูแล
เมื่อวันอังคาร (12 ธ.ค.) ต้าเหลียน ว่านต๋า สามารถบรรลุข้อตกลงกับนักลงทุนกลุ่มดังกล่าว ซึ่งรวมถึงบริษัท PAG บริษัทผู้ลงทุนหุ้นนอกตลาด โดยให้นักลงทุนกลุ่มนี้นำเงินลงทุนที่ได้รับคืนไปลงทุนใหม่ในจูไห่ ว่านต๋า ณ สิ้นปีนี้
ด้วยข้อตกลงใหม่นี้ PAG และนักลงทุนรายเดิมคนอื่น ๆ จะถือหุ้น 60% ในจูไห่ ว่านต๋า เพิ่มขึ้นจาก 21% ส่วนนายหวัง เจี้ยนหลิน ประธานต้าเหลียน ว่านต๋า กรุ๊ป ซึ่งถือครองผ่านว่านต๋า คอมเมอร์เชียล และอีกบริษัทหนึ่ง จะมีสัดส่วนการถือหุ้นลดลงจาก 79% เหลือ 40%
คันทรี การ์เดนระบุว่า บริษัทเลือกที่จะขายหุ้นในจูไห่ ว่านต๋าในตอนนี้ เนื่องจากมี "ความไม่แน่นอนอย่างมาก" เกี่ยวกับมูลค่าในอนาคต และบริษัทจะบันทึกยอดขาดทุนจากการขายหุ้นครั้งนี้เป็นเงิน 160 ล้านหยวน