สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า อาลีบาบา กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีนประสบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในปี 2566 ซึ่งส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของบริษัท ท่ามกลางกระแสปัญญาประดิษฐ์ (AI) เฟื่องฟู
อาลีบาบาซึ่งเดิมมีกำหนดนำธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งเข้าจดทะเบียนเพื่อเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เพื่อรับกระแสการเติบโตของ AI นั้น ได้ตัดสินใจยกเลิกแผนดังกล่าวเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา มูลค่าตลาดของอาลีบาบาในสหรัฐปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าพินตัวตัว (Pinduoduo) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซคู่แข่ง
นอกจากนี้ เมื่อปี 2564 อาลีบาบาเผชิญกับการปราบปรามบริษัทเทคโนโลยีครั้งใหญ่ของจีน โดยอาลีบาบาถูกสั่งปรับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 2.8 พันล้านดอลลาร์ในข้อหาละเมิดกฎระเบียบต่อต้านการผูกขาดตลาด อีกทั้งการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนยิ่งซ้ำเติมบริษัท
อย่างไรก็ตาม การยกเลิกแผนขายหุ้น IPO และการปรับโครงสร้างฝ่ายบริหารของอาลีบาบาเมื่อปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายครั้งใหญ่ของบริษัทที่เป็นตัวบ่งชี้สำคัญสำหรับนักลงทุนต่างชาติในจีน หุ้นของอาลีบาบาปรับตัวลดลงมากกว่า 75% แตะต่ำกว่า 77 ดอลลาร์ต่อหุ้น จาก 300 ดอลลาร์ต่อหุ้นในปี 2563
"ผมคิดว่าคงมีปัญหาภายในที่สำคัญอยู่ และตอนนี้คงต้องมีการต่อสู้กันภายในอย่างเด็ดขาดว่าพวกเขาจะออกจากสถานการณ์นี้อย่างไร เพราะพวกเขากำลังเผชิญกับการตกต่ำจริง ๆ" ดันแคน คลาร์ก อดีตที่ปรึกษาของอาลีบาบา ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานบีดีเอ (BDA) บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนในจีน กล่าว
นายคลาร์กเสริมว่า "ปัญหาสำคัญสำหรับผมคือตำแหน่งทางการตลาดที่กำลังสั่นคลอน รวมถึงกลยุทธ์ด้านวิดีโอและการไลฟ์สตรีม การรับมือกับโต่วอิน (Douyin) รวมถึงวิธีที่พวกเขาดูแลกลุ่มที่แตกแยกภายในองค์กรและความวุ่นวายของฝ่ายบริหาร พูดง่าย ๆ คือมันวุ่นวายไปหมด"
ทั้งนี้ โต่วอิน ซึ่งเป็นแอปติ๊กต๊อกเวอร์ชันจีนของไบต์แดนซ์ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในจีนในฐานะแพลตฟอร์สำหรับการไลฟ์สตรีมเพื่อการขายของที่เพิ่มขึ้น โดยผู้บริโภคชาวจีนที่มองหาสินค้าราคาถูกได้หันมาเลือกช็อปในพินตัวตัวเช่นกัน