หุ้น "เมตา" คัมแบ็ก ปิดพุ่งทำนิวไฮ นักลงทุนปลื้มแผนลดต้นทุนของซักเคอร์เบิร์ก

หุ้นเมตาปิดตลาดวันศุกร์ (19 ม.ค.) พุ่งขึ้นเกือบ 2% สู่ระดับ 383.45 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยทะยานขึ้นต่อจากปีที่ผ่านมาซึ่งพุ่งขึ้นเกือบ 200% โดยบ่งชี้ว่านักลงทุนยังคงพอใจกับแผนการของนายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเมตาที่จะปรับลดต้นทุนครั้งใหญ่ในปี 2556 ซึ่งรวมถึงการปลดพนักงานมากกว่า 20,000 ตำแหน่ง

ซักเคอร์เบิร์กระบุว่าปี 2566 เป็นปีแห่งประสิทธิภาพหลังจากเผชิญกับปีที่เลวร้ายในปี 2565 ซึ่งราคาหุ้นร่วงลง 64% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2559

ราคาหุ้นเมตาทำสถิติสูงสุดครั้งก่อนในเดือนก.ย. 2564 ที่ 382.18 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นช่วงที่หุ้นเทคโนโลยีอยู่ที่ระดับสูงสุดในภาวะตลาดกระทิง

อย่างไรก็ตาม มูลค่าหุ้นตามราคาตลาดหรือมาร์เก็ตแคปของเมตายังคงอยู่ต่ำกว่าระดับสูงเป็นประวัติการณ์เพราะบริษัทซื้อคืนหุ้นหลายหมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งลดจำนวนหุ้นในตลาด โดยในเดือนก.ย. 2564 มาร์เก็ตแคปของเมตาอยู่ใกล้ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ในปัจจุบันอยู่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับจุดยืนของเมตาในตลาดเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังเฟื่องฟู

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เมตากำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในชิปคอมพิวเตอร์ยอดนิยมของอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งชิปดังกล่าวมีความสำคัญต่อการวิจัยและโครงการด้าน AI

นายซักเคอร์เบิร์กเปิดเผยในโพสต์อินสตาแกรมรีลส์เมื่อวันพฤหัสบดี (18 ม.ค.) ว่า แผนการในอนาคตของเมตาในด้านเอไอนั้นคือ การสร้างโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลขนาดใหญ่ภายในสิ้นปี 2567 โดยโครงสร้างดังกล่าวจะใช้หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) รุ่น H100 ของอินวิเดียจำนวน 350,000 ชิ้น