LVMH เครือบริษัทสินค้าหรูหรารายใหญ่ที่สุดในโลก เผยยอดขายไตรมาสที่ 4/2566 เพิ่มขึ้น 10% ดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากดีมานด์ที่แข็งแกร่งสำหรับแฟชั่นระดับไฮเอนด์ของบริษัทในช่วงปลายปีที่สำคัญ รวมถึงจากผู้ซื้อชาวจีน
อัตราการเติบโตดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 9% ตามข้อมูลจาก HSBC โดยยอดขายเติบโต 9% ในไตรมาสที่ 3/66 และ 17% ในทั้งไตรมาสที่ 1/66 และ 2/66
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (25 ม.ค.) ว่า LVMH ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์หรูต่าง ๆ รวมถึง Louis Vuitton, Dior และ Tiffany มียอดขายอยู่ที่เกือบ 2.4 หมื่นล้านยูโร (2.6 หมื่นล้านดอลลาร์) ในช่วงไตรมาสที่ 4/66
"ผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความต้องการมากที่สุดในโลก" นายแบร์นาร์ด อาร์โนลต์ ซีอีโอของ LVMH กล่าวกับนักวิเคราะห์ โดยอ้างอิงถึงผลิตภัณฑ์โอต์กูตูร์ (haute couture) จากแบรนด์ต่าง ๆ ในเครืออย่าง Christian Dior พร้อมเสริมว่าเทรนด์นี้จะยังคงดำเนินต่อไป
นายอาร์โนลต์กล่าวว่าเขาพอใจกับอัตราการเติบโตของ LVMH และ "มั่นใจมาก" ถึงการเติบโตในปี 2567
นายฌอง-ฌาคส์ กีโยนี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ LVMH กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ยอดขายของ Louis Vuitton จากนักท่องเที่ยวชาวจีนระดับไฮเอนด์ในยุโรปแตะระดับ 70% ของระดับที่ทำได้ในปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19
นายกีโยนีกล่าวว่า เขาไม่คาดหวังว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนจะเดินทางกลับมายังยุโรปจำนวนมากในเร็ว ๆ นี้ แต่ LVMH สามารถทำยอดขายได้ "อย่างมีนัยสำคัญ" กับชาวจีนผู้มั่งคั่งที่เดินทางมาเยือนยุโรป
ยอดขายของแผนกสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังของ LVMH ซึ่งรวมถึงบรรดาแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในเครืออย่าง Louis Vuitton และ Dior เพิ่มขึ้น 9% ในไตรมาส 4/66 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เล็กน้อยที่ 10%
LVMH เสนอจ่ายเงินปันผล 13 ยูโรต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 12 ยูโรเมื่อปีที่แล้ว และบริษัทคาดการณ์ว่าจะเติบโตต่อไปในปีหน้า แม้จะมีบริบททางเศรษฐกิจมหภาคและภูมิรัฐศาสตร์ที่ไม่แน่นอนก็ตาม
อนึ่ง LVMH ประกาศเมื่อวานนี้ว่าจะแต่งตั้งลูกชายของนายแบร์นาร์ด อาร์โนลต์ ได้แก่ นายอเล็กซองดร์ อาร์โนลต์ และนายเฟรเดอริก อาร์โนลต์ เข้าสู่คณะกรรมการบริหาร รวมถึงนักธุรกิจชาวฝรั่งเศส นายอ็องรี เดอ แคสตรีส์ ในการประชุมประจำปีของบริษัทในวันที่ 18 เม.ย.
"ผมไม่คิดจะออกในระยะสั้นหรือระยะกลาง" นายอาร์โนลต์กล่าว