หุ้นที่เกี่ยวข้องกับตลาดคริปโทเคอร์เรนซีต่างดีดตัวขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังบิตคอยน์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 65,000 ดอลลาร์ในวันนี้
ทั้งนี้ ราคาหุ้น Coinbase และ Microstrategy พุ่งขึ้น 6% และ 9% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นในกลุ่มบริษัทขุดบิตคอยน์รายใหญ่ทะยานขึ้นเช่นกัน โดย CleanSpark และ Iris Energy ดีดตัวขึ้น 8% และ 5.5% ตามลำดับ ส่วน Riot Platforms และ Marathon Digital บวก 4% และ 7%
บิตคอยน์พุ่งขึ้นต่อเนื่องทะลุระดับ 65,000 ดอลลาร์ หรือมากกว่า 2,333,000 บาท ทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2564
การพุ่งขึ้นในวันนี้ ทำให้บิตคอยน์ใกล้ที่จะทำลายสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ที่ราวระดับ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพ.ย.2564
นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และชะลอตัวจากเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า บิตคอยน์ได้รับแรงหนุนจาก 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ การที่สหรัฐให้การอนุมัติการจัดตั้งกองทุน Spot Bitcoin ETF, ปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย. และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.
บิตคอยน์พุ่งขึ้นกว่า 50% นับตั้งแต่ต้นปี 2567 และส่งผลให้มูลค่าตลาดของบิตคอยน์ทะยานขึ้นมากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์
ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่า การอนุมัติ Spot Bitcoin ETF จะดึงดูดให้นักลงทุนสถาบันเข้าสู่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี และจะทำให้มีเม็ดเงินราว 50,000-100,000 ล้านดอลลาร์ไหลเข้าสู่บิตคอยน์ในปีนี้ ซึ่งจะหนุนให้บิตคอยน์พุ่งแตะระดับ 200,000 ดอลลาร์ภายในปี 2568
ทั้งนี้ บิตคอยน์พุ่งขึ้นมากกว่า 150% ในปีที่แล้ว โดยให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นเพียง 24%