ราคาหุ้นของบริษัท แอปเปิ้ล อิงค์ ร่วงลงในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ หลังเผยยอดขาย iPhone ที่ซบเซาในจีน
ณ เวลา 21.09 น.ตามเวลาไทย ราคาหุ้นแอปเปิ้ลร่วงลง 2.38% สู่ระดับ 170.94 ดอลลาร์
Counterpoint Research เปิดเผยว่า ยอดขาย iPhone ในจีนดิ่งลง 24% ในช่วง 6 สัปดาห์แรกของปี 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2566 ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดจากคู่แข่งในจีน
นอกจากนี้ ราคาหุ้นแอปเปิ้ลยังถูกกดดดัน หลังจากที่คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) สั่งปรับแอปเปิ้ลเป็นจำนวนเงิน 1,800 ล้านยูโร (1,950 ล้านดอลลาร์) หรือราว 70,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ EC ระบุว่า แอปเปิ้ลได้ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดตลาด จากการครอบงำตลาดแอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่งเพลงผ่านทาง App Store โดยแอปเปิ้ลได้ทำสัญญาห้ามผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นแจ้งต่อผู้ใช้ iPhone และ iPad ทราบถึงทางเลือกอื่นในการใช้บริการสตรีมมิงเพลงที่มีราคาถูกกว่าที่อยู่นอก App Store
นอกจากนี้ แอปเปิ้ลยังได้สั่งห้ามผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่งเพลงในการแจ้งผู้ใช้งานเกี่ยวกับการสมัครรับบริการที่ถูกกว่าดังกล่าว
"แอปเปิ้ลมีพฤติกรรมดังกล่าวนานเกือบ 10 ปี และอาจทำให้ผู้ใช้ระบบ iOS จำนวนมากต้องจ่ายค่าสมัครสมาชิกสตรีมมิ่งเพลงในราคาสูง อันเนื่องจากแอปเปิ้ลเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นในระดับสูงจากผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่น และค่าคอมมิชชั่นดังกล่าวก็ได้ถูกผลักภาระไปยังผู้บริโภคในรูปของราคาค่าสมัครสมาชิกที่มีราคาแพงสำหรับผู้ใช้บริการจาก App Store" EC ระบุ
ทั้งนี้ EC ได้ดำเนินการสอบสวนแอปเปิ้ลในปี 2563 หลังจากที่ Spotify ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มสตรีมมิ่งเพลงรายใหญ่ ได้ร้องเรียนในปี 2562 เกี่ยวกับข้อตกลงใบอนุญาตของแอปเปิ้ล ซึ่งระบุว่า ผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น 30% ให้แก่แอปเปิ้ล โดยคิดจากรายได้ซึ่งมาจากค่าสมาชิกที่ผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นได้รับผ่านทาง App Store