ราคาหุ้นบริษัทโซเชียลมีเดียของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ร่วงลงถึง 21% เมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) หลังจากมีการเปิดเผยว่าบริษัทขาดทุนหลายล้านดอลลาร์และอาจจะไม่สามารถชำระหนี้สินของบริษัทได้ในอนาคต ทำให้ราคาหุ้นที่พุ่งทะยานจากการเปิดตัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหายไปหมด
บริษัททรัมป์ มีเดีย แอนด์ เทคโนโลยี กรุ๊ป คอร์ป (Trump Media & Technology Group Corp หรือ TMTG) ซึ่งเป็นเจ้าของทรูธ โซเชียล (Truth Social) เผยว่า บริษัทขาดทุนกว่า 58 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 ส่งผลให้ราคาหุ้นทรุดลง เพียงไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ TMTG ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ผ่านการควบรวมกิจการแบบพิเศษ (SPAC)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หุ้นพุ่งขึ้นในวันเปิดตัวที่ 26 มี.ค. โดยปิดที่ราคาเกือบ 58 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากความกระตือรือร้นของนักลงทุนรายย่อยรวมถึงผู้สนับสนุนทรัมป์ แต่การเปิดเผยข้อมูลเมื่อวานนี้ทำให้เกิดการกลับตัวของเทรนด์ ส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลง 13.30 ดอลลาร์ หรือ -21% มาอยู่ที่ 48.66 ดอลลาร์
รอสส์ เบเนส นักวิเคราะห์จากอินไซเดอร์ อินเทลลิเจนซ์ (Insider Intelligence) กล่าวว่า "ทรูธ โซเชียล ถูกประเมินมูลค่าสูงเกินไป และความเป็นจริงกำลังฉุดราคาหุ้นลงมา เพราะทรูธ โซเชียล ยังไม่มีแผนชัดเจนว่าจะทำกำไรได้อย่างไร และรายได้ก็น้อยมาก ราคาหุ้นตอนเปิดตัวที่สูงมากจึงไม่ยั่งยืน"
นายทรัมป์ซึ่งมีแนวโน้มที่จะได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปีนี้ ถือหุ้นดังกล่าวอยู่ 78.75 ล้านหุ้น ซึ่งอาจส่งผลให้นายทรัมป์ได้รับผลตอบแทนมหาศาล โดยขึ้นอยู่กับว่าหุ้นมีมูลค่าเท่าไร
ในช่วงที่หุ้นพุ่งสูงสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หุ้นของนายทรัมป์จะมีมูลค่ามากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ แต่หลังจากหุ้นร่วงลง มูลค่าจะอยู่ที่ราว 3.8 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ นายทรัมป์ไม่ได้รับอนุญาตให้ขายหรือเอาหุ้นไปค้ำประกันเงินกู้เป็นเวลา 6 เดือน และถ้านายทรัมป์พยายามทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงข้อตกลงนั้น ก็อาจทำให้คนเทขายหุ้นมากยิ่งขึ้นไปอีก
แม้ราคาหุ้นจะลดลง แต่บริษัทยังคงมีมูลค่าตลาดมากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับของเรดดิต (Reddit) แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดัง ที่มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 8 พันล้านดอลลาร์
นายไมเคิล แอชลีย์ ชูลมาน นักวิเคราะห์จากรันนิ่ง พอยต์ แคปปิตอล (Running Point Capital) กล่าวว่า "TMTG ได้รับความสนใจและกระแสตอบรับที่ดีในช่วงแรก แต่ก็ยังห่างไกลจากการเป็นคู่แข่งโซเชียลมีเดียที่แท้จริงกับเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์), อินสตาแกรม, ติ๊กต๊อก และแพลตฟอร์มอื่น ๆ"
บริษัทฟินเทคและการวิเคราะห์เอสทรี พาร์ทเนอร์ส (S3 Partners) ให้ข้อมูลว่า นักลงทุนที่เล่นขายชอร์ตทั้งหุ้น TMTG และบริษัทเดิมก่อนหน้านี้อย่างดิจิทัล เวิลด์ แอคควิซิชัน (Digital World Acquisition) สามารถทำกำไรกลับมาได้มากพอสมควรเมื่อวานนี้ การเทขายหุ้นนี้ทำให้ผู้เล่นชอร์ตได้กำไรบนกระดาษราว 65 ล้านดอลลาร์ ช่วยลดการขาดทุนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (year-to-date) ลงเหลือเพียง 126 ล้านดอลลาร์
นายแมทธิว อันเทอร์แมน ผู้อำนวยการของ S3 กล่าวว่า "ความต้องการที่จะชอร์ตหุ้น DJT นั้นสูงมาก แต่จำนวนหุ้นที่พร้อมจะให้ยืมมีน้อยและหายากมาก"
ทั้งนี้ รายได้ของทรูธ โซเชียล อยู่ที่ 4.13 ล้านดอลลาร์ในปี 2566 เพิ่มขึ้นจาก 1.47 ล้านดอลลาร์ในปี 2565 ในขณะที่เรดดิตทำรายได้ถึง 800 ล้านดอลลาร์ในปี 2566
เรดดิตมีผู้ใช้ประจำมากกว่า 73 ล้านคน ในขณะที่ทรูธ โซเชียล เปิดเผยเพียงแค่ยอดผู้ลงทะเบียนทั้งหมดที่ 8.9 ล้านคน ในรายงานเมื่อวานนี้ TMTG ระบุว่าไม่มีแผนเปิดเผยตัวชี้วัดสำคัญที่แพลตฟอร์มอื่นใช้กัน
"ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2566 และปี 2565 ฝ่ายบริหารมีข้อสงสัยอย่างมากว่า TMTG จะมีเงินทุนเพียงพอที่จะชำระหนี้สินเมื่อถึงกำหนด รวมถึงหนี้สินที่เกี่ยวข้องกับตั๋วสัญญาใช้เงินที่ TMTG เคยออกไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่" ทางบริษัทกล่าว
นอกจากนี้ TMTG ยังคงมีคดีความกับผู้ร่วมก่อตั้ง 2 ราย ได้แก่ นายเวสลีย์ มอส และนายแอนดรูว์ ลิทินสกี อีกด้วย โดยเมื่อวานนี้ ผู้พิพากษาในรัฐเดลาแวร์ต้องการให้ทั้งสองฝ่ายกำหนดวันไต่สวนในเดือนนี้ เพื่อชี้ขาดว่าผู้ร่วมก่อตั้งทั้งสองสมควรได้รับหุ้น 8.6% ตามที่อ้างสิทธิ์หรือไม่
TMTG และผู้ร่วมก่อตั้งทั้งสองต่างฟ้องร้องกันและกันทั้งในศาลรัฐเดลาแวร์และรัฐฟลอริดา โดยทางนายมอสและนายลิทินสกีกล่าวหาว่า TMTG พยายามลดสัดส่วนการถือหุ้นของพวกเขาอย่างไม่ถูกต้อง ในขณะที่ TMTG อ้างว่าทั้งคู่ไม่มีสิทธิ์ได้รับหุ้น และต้องการริบหุ้นของทั้งสองคืนมา