บริษัท ฟิลิปส์ (Philips) ผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์ ประกาศในวันนี้ (29 เม.ย.) ว่า บริษัทได้ตกลงจ่ายเงิน 1.1 พันล้านดอลลาร์เพื่อยุติการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนการบาดเจ็บต่อบุคคล จากกรณีเครื่องช่วยหายใจของฟิลิปส์ที่ถูกเรียกคืนในสหรัฐ ถือเป็นการยุติปัญหาค้างคาที่ทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทลดลงตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์จากบาร์เคลย์กล่าวว่า "ข้อตกลงครั้งนี้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ซึ่งเดิมทีคาดว่าจะอยู่ที่ 2-4 พันล้านดอลลาร์ และในกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนั้นยังยุติเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งช่วยขจัดปัญหาคาราคาซังที่หลายคนกังวลว่าจะยืดเยื้อไปหลายปี"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หลังมีข่าวดังกล่าว หุ้นของฟิลิปส์พุ่งขึ้น 35% แตะที่ 26.60 ยูโร ณ เวลา 15:10 น. ตามเวลาไทย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2565 แม้ว่าจะยังคงมีมูลค่าเพียงครึ่งเดียวของราคาหุ้นในช่วงก่อนการเรียกคืนเครื่องช่วยหายใจเมื่อเดือนมิ.ย. 2564 ก็ตาม
ทั้งนี้ ฟิลิปส์ต้องเผชิญกับผลกระทบจากการเรียกคืนอุปกรณ์ช่วยหายใจและเครื่องช่วยหายใจหลายล้านเครื่องมาเป็นเวลานาน 3 ปี โดยความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้องทำให้มูลค่าตลาดของหุ้นฟิลิปส์ร่วงลงประมาณ 2 ใน 3
เครื่องช่วยหายใจดังกล่าวถูกเรียกคืนเนื่องจากมีความกังวลว่า โฟมที่ใช้ในเครื่องอาจเสื่อมสภาพกลายเป็นสารพิษ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อการก่อโรคมะเร็ง
อย่างไรก็ตาม ฟิลิปส์ไม่ได้ยอมรับความผิดหรือความรับผิดชอบใด ๆ หรือยอมรับว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเครื่องของบริษัท
นายรอย จาคอบส์ ซีอีโอของฟิลิปส์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ไม่ว่าจะมองอย่างไร เงิน 1.1 พันล้านดอลลาร์ก็เป็นจำนวนที่มาก เรื่องนี้มีความสำคัญในการยุติความไม่แน่นอน และทำให้เกิดความชัดเจนต่อเส้นทางของเรานับจากนี้"
แม้ว่าฟิลิปส์ยังคงเผชิญกับคดีความในยุโรปเกี่ยวกับเครื่องช่วยหายใจ แต่นายจาคอบส์กล่าวว่า ข้อตกลงนี้จะยุติความไม่แน่นอนเกือบทั้งหมดสำหรับนักลงทุน
"เมื่อพิจารณาจากจำนวนคดีในสหรัฐที่เราได้ยุติไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความสูญเสียเชิงเศรษฐกิจ การตรวจสอบทางการแพทย์ และการบาดเจ็บต่อบุคคล การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนส่วนใหญ่จริง ๆ เป็นที่ยุติเรียบร้อยแล้ว" นายจาคอบส์กล่าว