นายแบร์รี แม็กคาร์ธี ซีอีโอของเพโลทอน (Peloton) ซึ่งเข้ามาบริหารเพื่อแก้ไขปัญหายอดขายอุปกรณ์ออกกำลังกายของบริษัทฯ ตกต่ำหลังช่วงโควิด-19 ได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) ขณะที่บริษัทฯ ประกาศปลดพนักงานเพื่อลดต้นทุนหลังจากที่มีผลประกอบการอ่อนแอ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาหุ้นของเพโลทอนร่วงลงอีก 12% เนื่องจากนักวิเคราะห์จากวอลล์สตรีทกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของบริษัทฯ ซึ่งจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2562 แต่ยังคงไม่สามารถทำกำไรได้
เมื่อวานนี้ เพโลทอนเปิดเผยรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส โดยมีรายได้ประจำไตรมาสออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้บริษัทฯ ปรับลดประมาณการรายได้ทั้งปีลงเล็กน้อย เนื่องจากคนซื้อจักรยานออกกำลังกายและลู่วิ่งออกกำลังกายของบริษัทฯ น้อยลง แม้ว่าลดราคาแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ นายแม็กคาร์ธี อดีตผู้บริหารระดับสูงของเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) และสปอติฟาย (Spotify) เข้ารับตำแหน่งซีอีโอต่อจากนายจอห์น โฟลีย์ ผู้ร่วมก่อตั้งเพโลทอน หลังจากที่บริษัทฯ ประสบปัญหาในการรักษาอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งผลักดันให้มูลค่าบริษัทฯ สูงถึง 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงต้นปี 2564
ในช่วงที่นายแม็กคาร์ธีเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนก.พ. 2565 นักลงทุนตอบรับข่าวดังกล่าวในเชิงบวก จนส่งผลให้ราคาหุ้นเพโลทอนพุ่งขึ้น 30% และไม่กี่เดือนต่อมา นายแม็กคาร์ธีก็เริ่มสั่งปลดพนักงาน ลดสาขาหน้าร้าน และประกาศความร่วมมือกับอะเมซอนดอทคอม (Amazon.com) และดิ๊กส์ สปอร์ตติ้ง กู้ดส์ (Dick's Sporting Goods) เพื่อขายจักรยานของเพโลทอนทางออนไลน์
นอกจากนี้ นายแม็กคาร์ธียังผลักดันการปรับโฉมเพโลทอนให้เป็นบริษัทซอฟต์แวร์อีกด้วย โดยอาศัยการทำคอนเทนต์ออกกำลังกายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อเพิ่มยอดสมาชิก
อย่างไรก็ตาม ความต้องการสินค้าของเพโลทอนยังคงซบเซาหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย เนื่องจากลูกค้ากลับไปเล่นฟิตเนสนอกบ้านอีกครั้ง รวมถึงผู้คนลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่มีเงินเฟ้อสูงและต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้น
ด้วยเหตุนี้ เพโลทอนจึงเลื่อนเป้าหมายการกลับมาเป็นบริษัทที่มีกระแสเงินสดเป็นบวก โดย ณ วันที่ 31 มี.ค. เพโลทอนมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ที่ 794.5 ล้านดอลลาร์
เพโลทอนประกาศเมื่อวานนี้ว่าจะปลดพนักงานทั่วโลก 15% หรือประมาณ 400 คน และจะลดสาขาหน้าร้านเพิ่มเติม
ทั้งนี้ นางคาเรน บูน ประธานบริษัทเพโลทอน และนายคริส บรูซโซ กรรมการบริษัท จะทำหน้าที่เป็นซีอีโอร่วมกันเป็นการชั่วคราวในช่วงที่บริษัทฯ กำลังเฟ้นหาซีอีโอคนใหม่ นอกจากนี้ นายเจย์ โฮก กรรมการบริษัท ยังได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการบริษัทอีกด้วย