นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ เจ้าของบริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ได้เปิดเผยในท้ายที่สุดว่า เขาได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัทชับบ์ (Chubb) ซึ่งเป็นบริษัทประกัน ซึ่งถือเป็นการคลายข้อสงสัยของตลาดหลังจากที่เขาปกปิดเรื่องดังกล่าวมาเป็นเวลานาน
บริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ได้ระบุในรายงานที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ว่า เบิร์กเชียร์ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัทชับบ์จำนวนเกือบ 26 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ชับบ์กลายเป็นบริษัทที่เบิร์กเชียร์ถือหุ้นมากที่สุดเป็นอันดับที่ 9 เมื่อนับจนถึงสิ้นเดือนมี.ค.ปีนี้
ราคาหุ้นชับบ์ทะยานขึ้นเกือบ 7% หลังมีข่าวเบิร์กเชียร์เข้าซื้อหุ้น และนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ราคาหุ้นชับบ์พุ่งขึ้นไปแล้วประมาณ 12%
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เดิมทีนั้น บริษัทเอซ ลิมิเต็ด (Ace Limited) ซึ่งเป็นบริษัทประกันได้เข้าซื้อกิจการชับบ์ในปี 2559 ในรูปของหุ้นและเงินสด คิดเป็นมูลค่า 2.95 หมื่นล้านดอลลาร์ และบริษัทที่ถูกควบรวมกิจการแล้วใช้ชื่อว่า "ชับบ์" โดยมีนายอีแวน กรีนเบิร์ก ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งนายกรีนเบิร์กเป็นบุตรชายของนายมอริซ กรีนเบิร์ก อดีตประธานและซีอีโอของบริษัทอเมริกัน อินเทอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่
ที่ผ่านมานั้น เบิร์กเชียร์ได้รุกเข้าซื้อหุ้นบริษัทหลายแห่งในอุตสาหกรรมประกันตั้งแต่บริษัทไกโค (Geico) ซึ่งเป็นบริษัทประกันรถยนต์ระดับแนวหน้า ไปจนถึงบริษัทเจเนอรัล รี ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยต่อ (reinsurance) รายใหญ่ รวมทั้งเข้าซื้อธุรกิจประกันเคหสถานและประกันชีวิตอีกหลายแห่ง
เบิร์กเชียร์ได้เก็บความลับเกี่ยวกับการซื้อหุ้นในบริษัทชับบ์มานานถึง 2 ไตรมาสติดต่อกัน โดยเบิร์กเชียร์ได้รับอนุญาตจาก SEC ให้สามารถปกปิดรายละเอียดเกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นเป็นความลับได้ และในการประชุมประจำปีของเบิร์กเชียร์ในเมืองโอมาฮาเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ก็ไม่มีการพูดถึงการเข้าซื้อหุ้นชับบ์อย่างลับ ๆ
ทั้งนี้ ไม่บ่อยครั้งนักที่เบิร์กเชียร์จะร้องขอต่อ SEC ในการเก็บความลับเรื่องการเข้าซื้อหุ้น โดยการเข้าซื้อหุ้นอย่างลับ ๆ ครั้งหลังสุดเกิดขึ้นเมื่อเบิร์กเชียร์ได้เข้าซื้อหุ้นเชฟรอนและเวอไรซอนในปี 2563