ผู้ถือหุ้นสถาบันรายหนึ่งได้ยื่นฟ้องนายอีลอน มัสก์ เมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.) โดยอ้างว่านายมัสก์ทำกำไรหลายพันล้านดอลลาร์จากการขายหุ้นเทสลาโดยใช้ข้อมูลภายใน พร้อมขอให้ศาลสั่งให้นายมัสก์คืน "กำไรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย" เหล่านี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คดีความดังกล่าวเกิดขึ้น 2 วันก่อนการลงคะแนนเสียงครั้งสำคัญของผู้ถือหุ้นเทสลาว่า จะคืนสถานะแพ็คเกจค่าตอบแทนจำนวน 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับนายมัสก์หรือไม่ หลังจากที่ผู้พิพากษารัฐเดลาแวร์ได้ตัดสินให้เป็นโมฆะในเดือนม.ค. เนื่องจากพบว่านายมัสก์ควบคุมกระบวนการอย่างไม่เหมาะสม
กองทุนบำเหน็จบำนาญลูกจ้างแห่งรัฐโรดไอแลนด์ (ERSRI) ได้ยื่นฟ้องโดยระบุว่า นายมัสก์และนายคิมบาล มัสก์ น้องชายของเขาซึ่งเป็นกรรมการของเทสลา ได้ขายหุ้นเทสลารวมกันเป็นมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ระหว่างปลายปี 2564 ถึงปลายปี 2565 โดยพวกเขาได้ขายหุ้นและรับเงินสดไปก่อนที่ข่าวที่จะส่งผลให้ราคาหุ้นตกจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ
คำฟ้องของ ERSRI ที่ยื่นต่อศาลชานเซอรีของรัฐเดลาแวร์ระบุว่า นายมัสก์ขายหุ้นในราคาที่สูงเกินจริงโดยจงใจปกปิดแผนการใช้เงินที่ได้จากการขายหุ้นเทสลาไปซื้อแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นเอ็กซ์) นอกจากนี้ นายมัสก์ยังขายหุ้นเทสลาทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ายอดส่งมอบรถยนต์เทสลาต่ำกว่าเป้าหมายที่ประกาศต่อสาธารณะอย่างมาก
ทั้งนี้ ERSRI ถือครองหุ้นเทสลาประมาณ 140,000 หุ้น ซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณ 24 ล้านดอลลาร์ ณ ราคาปิดตลาดที่ 170.66 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อวานนี้
ยิ่งไปกว่านั้น คำฟ้องของ ERSRI ยังระบุด้วยว่า นายมัสก์แสดงพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์ต่อเทสลาในหลายกรณี เช่น การดึงพนักงานเทสลาไปทำงานที่เอ็กซ์ และการให้เทสลาเริ่มจ่ายเงินค่าโฆษณาบนทวิตเตอร์หลังจากที่เขาเข้าซื้อแพลตฟอร์มดังกล่าวเมื่อปี 2565
เหรัญญิกของ ERSRI เปิดเผยในแถลงการณ์ว่า กองทุนมีความกังวลว่าคณะกรรมการบริหารของเทสลาไม่ได้ดำเนินการอย่างเพียงพอในการควบคุมดูแลเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของนายมัสก์
นอกจากนี้ คำฟ้องยังกล่าวหาว่า นายมัสก์ใช้ตำแหน่งซีอีโอของเอ็กซ์เอไอ (xAI) ในการดึงพนักงานเทสลา และยักย้ายถ่ายเทเซมิคอนดักเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ควรจะเป็นของเทสลาไปยังแพลตฟอร์มเอ็กซ์และบริษัทเอ็กซ์เอไอ
อนึ่ง คดีนี้มีความคล้ายคลึงกับคดีที่นายไมเคิล เพอร์รี่ ผู้ถือหุ้นเทสลาอีกรายหนึ่ง ยื่นฟ้องต่อศาลเดียวกันเมื่อปลายเดือนที่แล้ว โดยกล่าวหาว่านายมัสก์ใช้ข้อมูลภายในขายหุ้นเทสลามูลค่ากว่า 7.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงปลายปี 2565