นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้น หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย. เนื่องจากพรรครีพับลิกันมีนโยบายที่เป็นมิตรต่อภาคธุรกิจ ซึ่งจะทำให้กำไรของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้น และส่งผลบวกต่อตลาด
"ที่ผ่านมา ทรัมป์มักมีนโยบายที่เอื้อต่อตลาด ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยให้ตลาดคลายความวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการเลือกตั้ง" นายนิค เฟอร์เรส หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Vantage Point Asset Management กล่าว
ทางด้านโกลด์แมน แซคส์ออกรายงานระบุว่า "ในการเลือกตั้งประธานาธืบดี 5 ครั้งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ความเชื่อมั่นของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และโดยเฉพาะความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็ก มักขานรับชัยชนะของพรรครีพับลิกันมากกว่าพรรคเดโมแครต และความเชื่อมั่นดังกล่าวนำไปสู่การใช้จ่ายและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นชัยชนะของทรัมป์จะช่วยกระตุ้นแนวโน้มกำไรของภาคธุรกิจ"
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เหตุการณ์ลอบสังหารนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีแนวโน้มเป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกันในการชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ จะส่งผลให้นายทรัมป์คว้าชัยชนะเหนือประธานาธิบดีโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย.นี้
"ทรัมป์มีคะแนนนำไบเดนอยู่ก่อนแล้ว และเหตุการณ์นี้จะยิ่งทำให้คะแนนนิยมของทรัมป์ทิ้งห่างออกไป" นายอดัม ไครซาฟูลลี ผู้ก่อตั้งสถาบัน Vital Knowledge กล่าว
ส่วนนายแซม สโตวอลล์ หัวหน้านักวิเคราะห์ฝ่ายการลงทุนของ CFRA Research กล่าวว่า "ข่าวดีคือทรัมป์ไม่ได้รับบาดเจ็บ โดยมีแผลเล็กน้อยบริเวณหูเท่านั้น และเขาไม่ได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดหุ้นจะยังคงดีดตัวขึ้นต่อไป"
มีการคาดการณ์ว่า นายทรัมป์จะได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการจากพรรครีพับลิกันให้เป็นตัวแทนของพรรคในการชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในศึกเลือกตั้งเดือนพ.ย. โดยการประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันจะมีในสัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ 15-18 ก.ค.