บริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway) ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้ลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทบีวายดี (BYD) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของจีน ลงเหลือต่ำกว่า 5% แล้ว
จากเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในวันนี้ (22 ก.ค.) เบิร์กเชียร์ได้ลดสัดส่วนการถือหุ้น H-shares ของ BYD ลงเหลือ 4.94% จากเดิม 5.06% เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. เบิร์กเชียร์ถือหุ้นอยู่ที่ 7.02%
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงกำหนดให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ต้องเปิดเผยข้อมูลการขายหุ้นเมื่อสัดส่วนการถือหุ้นลดลงต่ำกว่าจำนวนเต็มเปอร์เซ็นต์ เช่น จาก 7% เหลือ 6% เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เมื่อสัดส่วนการถือหุ้นลดลงต่ำกว่า 5% แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องรายงานการขายหุ้นอีกต่อไป
ย้อนกลับไปในปี 2551 เบิร์กเชียร์เริ่มลงทุนใน BYD ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เซินเจิ้น ด้วยการทุ่มเงิน 230 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นจำนวน 225 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือครอง 10% ในขณะนั้น
ต่อมาในเดือนส.ค. 2565 เบิร์กเชียร์เริ่มทยอยขายหุ้น BYD ออกมา หลังจากราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นกว่า 20 เท่า และผ่านไป 2 เดือนหลังจากที่ราคาหุ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นายชาร์ลี มังเกอร์ อดีตรองประธานเบิร์กเชียร์ผู้ล่วงลับ เป็นผู้ผลักดันการลงทุนใน BYD ตั้งแต่แรกเริ่ม ทั้งที่โดยปกติแล้วเบิร์กเชียร์จะเน้นการลงทุนในบริษัทในสหรัฐเป็นหลัก
ทั้งนี้ BYD ก่อตั้งขึ้นในปี 2538 โดยนายหวัง ฉวนฝู นักเคมีชาวจีน โดยเริ่มต้นจากการเป็นบริษัทผลิตแบตเตอรี่แบบชาร์จซ้ำได้
ปีที่แล้ว BYD แซงหน้าเทสลา (Tesla) ของมหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ ขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา เทสลากลับมาทวงบัลลังก์คืนอีกครั้งด้วยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 443,956 คัน ขณะที่ BYD มียอดขายอยู่ที่ 426,039 คัน