บรรดาราคาหุ้นของบริษัทคริปโทเคอร์เรนซีที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กปรับตัวลดลงในวันจันทร์ (29 ก.ค.) สอดคล้องกับราคาบิตคอยน์ที่ร่วงลงมา หลังจากที่เพิ่งทะลุ 70,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การเทขายทำกำไรครั้งนี้ได้ลบล้างผลกำไรที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งตอนนั้นหุ้นพุ่งขึ้นเพราะนักลงทุนมีความหวังหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐและผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ได้กล่าวปราศรัยสนับสนุนคริปโทฯ
หุ้น Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทฯ ร่วงลง 1.5% หลังจากที่ก่อนหน้านี้พุ่งขึ้นสูงสุดถึง 5% ส่วนหุ้นของบริษัทขุดคริปโทฯ อย่าง Bitfarms, Riot Platforms และ CleanSpark ก็ปรับตัวลดลงระหว่าง 2.2%-4% หลังจากที่ราคาขึ้นไปก่อนหน้านี้
นักวิเคราะห์จาก Bernstein เขียนในบันทึกว่า หากใครจะลงทุนตามกระแสทรัมป์ในช่วงเลือกตั้งสหรัฐ ควรจัดสรรเงินลงทุนในบิตคอยน์และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์ให้มากขึ้น
ทั้งนี้ นายทรัมป์ได้แสดงตัวเป็นผู้สมัครที่สนับสนุนบิตคอยน์ก่อนการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.นี้ หากเขากลับมาเป็นปธน.ได้อีกครั้ง ก็อาจถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับวงการคริปโทฯ ซึ่งมักบ่นว่าถูกกำกับดูแลมากเกินไปและเผชิญกับสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ไม่เป็นมิตรภายใต้การบริหารของปธน.โจ ไบเดน
อย่างไรก็ตาม นายแกรี เกนสเลอร์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ซึ่งถือเป็นมือปราบคริปโทฯ คนสำคัญของรัฐบาลไบเดน ได้เตือนนักลงทุนให้ระวังความผันผวนรุนแรงและลักษณะการเก็งกำไรของสกุลเงินดิจิทัลอย่างบิตคอยน์
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (27 ก.ค.) นายทรัมป์ประกาศว่าจะไล่นายเกนสเลอร์ออกทันทีในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่งปธน. นอกจากนี้ เขายังเผยว่ารัฐบาลของเขาจะจัดตั้ง "คลังสำรองบิตคอยน์แห่งชาติ" โดยใช้คริปโทฯ ที่รัฐบาลสหรัฐครอบครองอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากการยึดในปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมาย
นายแดนนี สก็อตต์ ซีอีโอของ CoinCorner กล่าวว่า "การมีคลังสำรองบิตคอยน์ของสหรัฐถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญสำหรับบิตคอยน์ ถึงกระนั้นก็ยังต้องลุ้นให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งก่อนอยู่ดี"
อย่างไรก็ตาม นายสก็อตต์เสริมว่า ความเชื่อมั่นทั่วโลกที่มีต่อบิตคอยน์นั้น "เป็นไปในเชิงบวกอย่างไม่น่าเชื่อในปีนี้"
"นี่คือการปูทางสู่สิ่งที่หลายคนเชื่อว่าจะเป็นช่วงตลาดกระทิงครั้งใหญ่ในปี 2567-68"