พาราเมาท์ โกลบอล (Paramount Global) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสื่อ ระบุเมื่อวันพฤหัสบดี (8 ส.ค.) ว่า บริษัทได้ปรับลดมูลค่าธุรกิจเคเบิลทีวีลงเกือบ 6 พันล้านดอลลาร์ พร้อมประกาศปลดพนักงานในสหรัฐออก 15% ท่ามกลางภาวะถดถอยของอุตสาหกรรมเคเบิลทีวี
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การปรับลดมูลค่าและการปลดพนักงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนลดต้นทุน 500 ล้านดอลลาร์ ก่อนการควบรวมกิจการกับสกายแดนซ์ มีเดีย (Skydance Media) และพนักงานประมาณ 2,000 คนจะได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หุ้นของพาราเมาท์พุ่งขึ้น 5% หลังปิดตลาด เนื่องจากบริษัทมีกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่ธุรกิจสตรีมมิ่ง Paramount+ และ PlutoTV ก็ทำกำไรรายไตรมาสได้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน 26 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2/2567
ทั้งนี้ พาราเมาท์เป็นบริษัทสื่อรายใหญ่รายที่สองในรอบสัปดาห์ที่ปรับลดมูลค่าสินทรัพย์เคเบิลทีวี ตามรอยบริษัท วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี (Warner Bros Discovery) เพื่อสะท้อนถึงผลกระทบของเรตติ้งและรายได้จากการโฆษณาที่ลดลง
นายรอสส์ เบเนส นักวิเคราะห์ด้านโทรทัศน์และสตรีมมิ่งจากอีมาร์เก็ตเตอร์ (Emarketer) ให้ความเห็นว่า "การปรับลดมูลค่าของพาราเมาท์และวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี ในสัปดาห์นี้ เป็นเหมือนการตอกฝาโลงอุตสาหกรรมทีวีแบบดั้งเดิม โอกาสที่ดีที่สุดของพาราเมาท์ในการถอนตัวจากธุรกิจนี้คือผ่านสกายแดนซ์ ยิ่งรอนาน บริษัทก็ยิ่งมีมูลค่าลดลง"
ข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับค่าแล้วของพาราเมาท์ ซึ่งไม่รวมการด้อยค่า อยู่ที่ 867 ล้านดอลลาร์ หรือ 54 เซนต์ต่อหุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 12 เซนต์ต่อหุ้น
อย่างไรก็ตาม รายได้ในไตรมาส 2/2567 ลดลง 11% สู่ระดับ 6.8 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 7.2 พันล้านดอลลาร์
ผู้บริหารของพาราเมาท์กล่าวในการประชุมทางโทรศัพท์กับนักลงทุนว่า การปลดพนักงานคาดว่าจะทำให้มีค่าใช้จ่าย 300-400 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3/2567 ด้านนายนาวีน โชปรา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน กล่าวว่า บริษัทกำลังพิจารณาแผนการลดต้นทุนเพิ่มเติมในอีกหลายส่วน
สำหรับหน่วยธุรกิจโทรทัศน์ ซึ่งรวมถึงเครือข่าย CBS มีรายได้รายไตรมาสเกือบ 4.3 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 17% จากปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงรายได้จากการโฆษณาที่ลดลง และรายได้จากการขายลิขสิทธิ์รายการให้ช่องอื่น ๆ นำไปออกอากาศที่ลดลงเช่นกัน โดยกำไรจากการดำเนินงานของกลุ่มลดลง 15% สู่ระดับ 1 พันล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน ธุรกิจภาพยนตร์ของพาราเมาท์ก็ขาดทุน 54 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะมีภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในประเทศในช่วงเปิดตัวอย่าง "IF" (เพื่อนในจินตนาการ) และหนังสยองขวัญ "A Quiet Place: Day One" (ดินแดนไร้เสียง: วันที่หนึ่ง) ที่ทำรายได้ดีที่สุดในจักรวาลดินแดนไร้เสียงก็ตาม