น้ำหนักของหุ้นอินเดียในดัชนี MSCI Global Standard ซึ่งเป็นดัชนีติดตามหุ้นในตลาดเกิดใหม่ พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นอินเดียได้ประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์
อภิลาช ปากาเรีย หัวหน้าฝ่ายวิจัยทางเลือกและวิจัยเชิงปริมาณของนูวามา (Nuvama) ระบุว่า อินเดียกำลังไล่จี้จีนในดัชนี MSCI โดยน้ำหนักของจีนในดัชนีจะลดลงจาก 25% เหลือ 20.2% ในขณะที่อินเดียจะเพิ่มขึ้นจาก 19.2% เป็น 19.8%
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักในดัชนีจะมีผลหลังตลาดปิดทำการในวันที่ 30 ส.ค.นี้ ส่วนน้ำหนักของอินเดียมีโอกาสพุ่งทะลุ 20% ได้ภายในสิ้นเดือนพ.ย.
นูวามาคาดการณ์ว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้เม็ดเงินลงทุนไหลเข้าสู่อินเดียประมาณ 2.7-3 พันล้านดอลลาร์
HDFC Bank ธนาคารลูกค้าบุคคลรายใหญ่ชั้นนำของอินเดีย และเป็นหุ้นที่มีน้ำหนักมากที่สุดในดัชนี NSE Nifty 50 จะได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักในดัชนี ซึ่งนูวามาคาดว่าอาจดึงดูดเงินทุนไหลเข้าได้ถึง 1.8 พันล้านดอลลาร์
"ดูจากความคึกคักและโมเมนตัมในตลาดหุ้นในประเทศตอนนี้ อินเดียอาจมีน้ำหนักในดัชนีเกิน 22% ภายในสิ้นปีนี้" ปากาเรียกล่าว
บริษัทอื่น ๆ ที่คาดว่าจะมีน้ำหนักในดัชนีเพิ่มขึ้น ได้แก่ Bharti Airtel, Coal India และ Mphasis ส่วนบริษัทที่คาดว่าจะมีน้ำหนักลดลง ได้แก่ Maruti Suzuki India, LTIMindtree, Ambuja Cements, Adani Enterprises, Yes Bank และ SRF
ดัชนี MSCI Emerging Markets จะเพิ่มหุ้นใหม่เข้ามา ได้แก่ Dixon Technologies, Vodafone Idea, Oil India, Zydus Lifesciences, Rail Vikas Nigam, Prestige Estates Project และ Oracle Financial Services ส่วนหุ้น Bandhan Bank จะถูกถอดออกจากดัชนี
นอกจากนี้ ยังมีหุ้นประมาณ 25 ตัวที่จะถูกเพิ่มเข้าไปในดัชนี MSCI India Small-cap ซึ่งทางนูวามาคาดว่าจะดึงดูดเงินทุนไหลเข้าได้ประมาณ 3-26 ล้านดอลลาร์