ดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์ก (Bloomberg Billionaires Index) บ่งชี้ว่า ราคาหุ้นพีดีดี โฮลดิงส์ (PDD Holdings) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซอย่างเทมู (Temu) ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ ส่งผลให้ความมั่งคั่งของโคลิน หวง (Colin Huang) ผู้ก่อตั้ง PDD ดิ่งลง 1.41 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการร่วงลงวันเดียวรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยในขณะนี้ หวงเป็นคนรวยที่สุดอันดับ 4 ในจีนโดยมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ 3.52 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ราว 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ หวงเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของจีน
เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา หวงได้กลายเป็นเจ้าพ่อด้านเทคโนโลยีคนแรกที่ครองอันดับหนึ่งในรายชื่อผู้มั่งคั่งที่สุดของจีนในรอบกว่า 3 ปี โดยขึ้นมาแทนที่จง ซานซาน (Zhong Shanshan) มหาเศรษฐีผู้ขายน้ำดื่มบรรจุขวด โดยเมื่อวานนี้ จงกลับมาทวงบัลลังก์อันดับ 1 ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ PDD รายงานรายได้รายไตรมาสที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และเตือนว่าการเติบโตของยอดขายจะชะลอตัวลง โดยเฉิง เหล่ย (Chen Lei) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ PDD เปิดเผยกับนักวิเคราะห์ในการประชุมทางโทรศัพท์หลังจากการเปิดเผยผลประกอบการว่า แนวโน้มในปัจจุบันของบริษัทจะไม่สามารถคงอยู่ต่อไปได้ในช่วงเวลาที่คู่แข่งอย่างติ๊กต๊อก (TikTok) ของไบต์แดนซ์ (ByteDance) และอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิง (Alibaba Group Holding) กำลังแข่งกันเพื่อดึงดูดลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับเรื่องงบประมาณ โดยหุ้น PDD ที่จดทะเบียนในสหรัฐร่วงลงถึง 29% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ เฉิงยังทำลายความหวังเกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผลและการซื้อหุ้นคืนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าด้วย
"เรากำลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงในหลายด้าน รวมถึงความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก" เฉิงกล่าว "ด้วยเหตุนี้ ทีมผู้บริหารของเราและตัวผมเองต่างเห็นพ้องต้องกันว่า เวลานี้ไม่เหมาะสมสำหรับการซื้อหุ้นคืนหรือการจ่ายเงินปันผล และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ เราก็ยังไม่เห็นความจำเป็นในเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน"