คาดหุ้นสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นได้อานิสงส์ หลัง"อาลีบาบา"เข้าโครงการ Stock Connect

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 28, 2024 17:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การที่อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิง (Alibaba Group Holding) จะเข้าร่วมโครงการ Stock Connect ในไม่ช้านี้ อาจทำให้มีเงินสดไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นทั่วโลกมากถึง 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า หุ้นญี่ปุ่นและสหรัฐฯ อาจได้รับประโยชน์จากกรณีดังกล่าว

ทั้งนี้ Stock Connect คือโครงการที่อนุญาตให้นักลงทุนในจีนและฮ่องกงซื้อขายหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของแต่ละฝ่ายได้ โดยเชื่อมโยงระหว่างตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น และตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง

การที่อาลีบาบาเข้าร่วมในโครงการ Stock Connect จะทำให้กองทุนของนักลงทุนสถาบันภายในประเทศที่ผ่านการรับรอง (Qualified Domestic Institutional Investor - QDII) สามารถซื้อหุ้นของอาลีบาบาผ่านทางโครงการ Stock Connect ได้ แทนที่จะต้องซื้อผ่านโควตาเงินตราต่างประเทศที่ถูกกำหนดไว้ ดังนั้นผู้จัดการสินทรัพย์ก็จะสามารถใช้โควตาที่ว่างลงดังกล่าวในการซื้อหุ้นอื่น ๆ รวมถึงหุ้นต่างประเทศได้

การเข้าร่วมโครงการ Stock Connect ของอาลีบาบามีแนวโน้มที่จะช่วยกระตุ้นตลาดหุ้นต่างประเทศเพิ่มขึ้น เช่น หุ้นในสหรัฐฯ และญี่ปุ่นซึ่งทำผลงานได้ดีกว่าหุ้นจีนในปีนี้ โดยดัชนี CSI 300 ของจีน ร่วงลงมากกว่า 3% แล้วนับตั้งแต่สิ้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ของทั้งดัชนี S&P500 ของสหรัฐฯ และดัชนี Topix ของญี่ปุ่น

"หุ้นสหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ดังนั้นความต้องการหุ้นดังกล่าวจะยังคงเพิ่มขึ้น เป็นความจริงที่ยากจะปฏิเสธ" หยู ไอปิน ผู้จัดการกองทุนที่ Shenzhen Jointfull Capital Management กล่าว

บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า อาลีบาบาอาจได้เข้าร่วมในโครงการ Stock Connect อย่างเร็วที่สุดในวันที่ 9 ก.ย.นี้ และการจดทะเบียนหุ้นหลัก (primary listing) ของอาลีบาบาในตลาดหุ้นฮ่องกงซึ่งมีผลในวันนี้ (28 ส.ค.) มีแนวโน้มจะทำนักลงทุนจีนสามารถซื้อขายหุ้นอาลีบาบาในตลาดหุ้นฮ่องกงได้ในช่วงต้นเดือนก.ย.

Bloomberg Intelligence ประเมินว่า โควตา QDII ที่ว่างลง จะมีมูลค่ารวม 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งมากกว่า 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่เพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย.เมื่อจีนยกเลิกการจำกัดการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยในเวลานั้น โควตาที่ได้รับอนุมัติทั้งหมดสำหรับผู้จัดการสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ