หุ้นอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิง (Alibaba Group Holding) ปรับตัวขึ้นในตลาดหุ้นฮ่องกง หลังจากที่นักลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่สามารถเข้าซื้อขายหุ้นอาลีบาบาได้โดยตรงเป็นครั้งแรก
หุ้นอาลีบาบาพุ่งขึ้นมากถึง 5.2% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ (10 ก.ย.) หุ้นของบริษัทได้ถูกเพิ่มในโครงการ Stock Connect ซึ่งเป็นโครงการที่อนุญาตให้นักลงทุนในจีนและฮ่องกงซื้อขายหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของแต่ละฝ่ายได้ โดยเชื่อมโยงระหว่างตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น และตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
ข้อมูลจากบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ระบุว่า การเข้าร่วมของอาลีบาบาในโครงการดังกล่าวคาดว่าจะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมากถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปีหน้า โดยนักลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่คาดว่าจะครองสัดส่วนการถือหุ้นมากกว่า 10% ในอาลีบาบา และนักวิเคราะห์เชื่อว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะช่วยลดส่วนต่างด้านมูลค่าของบริษัทเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง พีดีดี โฮลดิงส์ (PDD Holdings) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซอย่างเทมู (Temu)
หุ้นอาลีบาบาปรับตัวขึ้น 7.5% ในตลาดหุ้นฮ่องกงแล้วในปีนี้ และการเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ถือเป็นแรงกระตุ้นที่มาได้ถูกจังหวะ หลังจากที่บริษัทเพิ่งรายงานผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2/2567 เนื่องจากการบริโภคที่ซบเซาของจีนยังคงฉุดรั้งการเติบโตของยอดค้าปลีก
ทั้งนี้ อาลีบาบาเคยเป็นหนึ่งในหุ้นจีนรายใหญ่ไม่กี่ตัวที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการ Stock Connect ได้ เนื่องจากมีสถานะการจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงเป็นการจดทะเบียนแบบตลาดรอง (Secondary Listing) อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ยกสถานะการจดทะเบียนทั้งในตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นการจดทะเบียนในตลาดหุ้นหลัก (Primary Listing) ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้หุ้นนั้นสามารถซื้อขายในจีนได้