เซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิงส์ (Seven & i Holdings Co.) ยักษ์ใหญ่วงการค้าปลีกญี่ปุ่น ประกาศในวันนี้ (10 ต.ค.) ว่าจะให้น้ำหนักกับธุรกิจร้านสะดวกซื้อมากขึ้น โดยแยกออกมาจากธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่แกนหลักของบริษัท ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า อาลีมองตาซิยง คูช-ตาร์ (Alimentation Couche-Tard) บริษัทยักษ์ใหญ่จากแคนาดา ได้ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการฉบับใหม่
เซเว่น แอนด์ ไอ ผู้บริหารเครือเซเว่น-อีเลฟเว่น (Seven-Eleven) เผยว่าจะจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งขั้นกลางขึ้นมาเพื่อดูแลธุรกิจอื่น ๆ ทั้งซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหาร นอกจากนี้ยังวางแผนเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น "เซเว่น-อีเลฟเว่น คอร์ป" (7-Eleven Corp.) ภายในปี 2568 เป็นอย่างเร็ว
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในเมื่อวานนี้ (9 ต.ค.) ว่า อาลีมองตาซิยง คูช-ตาร์ เจ้าของแบรนด์คูช-ตาร์และเซอร์เคิล เค (Circle K) ได้ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการรอบใหม่ต่อเซเว่น แอนด์ ไอ มูลค่าสูงถึง 7 ล้านล้านเยน (4.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% จากข้อเสนอครั้งก่อน
ก่อนหน้านี้ในเดือนส.ค. คูช-ตาร์ได้ยื่นข้อเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของเซเว่น แอนด์ ไอ ในราคา 14.86 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น รวมมูลค่าประมาณ 3.87 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ฝ่ายเซเว่น แอนด์ ไอ ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าเป็นการ "ประเมินมูลค่าบริษัทต่ำเกินจริง"
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ข้อเสนอฉบับใหม่ซึ่งคาดว่าได้ยื่นไปแล้วในช่วงกลางเดือนก.ย. มีมูลค่าสูงถึงประมาณ 18 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น