ฮิโรมิ ยามาจิ ซีอีโอของกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของตลาดหลักทรัพย์โตเกียว แถลงข่าวที่กรุงโตเกียวในวันนี้ (17 ต.ค.) ว่า ต่อจากนี้ไป ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวจะเน้นสร้างบรรยากาศให้บริษัทและนักลงทุนได้พูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์ แทนที่จะคอยออกคำสั่งว่าธุรกิจควรดำเนินการอย่างไร
"ผู้มีอำนาจแท้จริงในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก็คือนักลงทุนและผู้ถือหุ้นนั่นเอง" ยามาจิกล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความพยายามของตลาดหลักทรัพย์ในการผลักดันให้บริษัทต่าง ๆ ยกระดับธรรมาภิบาลและเพิ่มมูลค่าองค์กร ส่งผลให้หุ้นในประเทศพุ่งทะยานจนทำให้ดัชนีนิกเกอิทำสถิติสูงสุดในรอบ 34 ปีเมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ยามาจิมองว่า การบังคับให้บริษัทต่าง ๆ เปลี่ยนวิธีบริหารอาจส่งผลตรงกันข้าม เพราะอาจทำให้เกิดแรงต่อต้านกลับมา
"การปฏิรูปจะไม่ยั่งยืน ถ้าบริษัทไม่ลงมือทำด้วยความสมัครใจ" ยามาจิกล่าว
เมื่อเดือนม.ค. ปีนี้ ตลาดหลักทรัพย์เริ่มเผยแพร่รายชื่อบริษัทที่เปิดเผยแผนการปรับปรุงการจัดสรรเงินทุนและมูลค่าองค์กร ซึ่งถูกมองว่าเป็นการประจานบริษัทที่ไม่ยอมเปิดเผยแผนดังกล่าว
ณ สิ้นเดือนก.ย. 80% ของบริษัทในตลาดหลัก (prime market) ของตลาดหลักทรัพย์โตเกียวได้ส่งแผนปรับปรุงกิจการแล้ว
ยามาจิเผยว่า ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ตลาดหลักทรัพย์มีแผนจะยกระดับรายชื่อบริษัทให้ดียิ่งขึ้น โดยจะเน้นให้เห็นถึงบริษัทที่กระตือรือร้นในการพูดคุยกับนักลงทุน พร้อมกันนั้นก็จะชี้ให้บริษัทต่าง ๆ เห็นตัวอย่างที่ดีและไม่ดีของการมีส่วนร่วมกับผู้ถือหุ้น
นอกจากนี้ ยามาจิยังเน้นย้ำว่า นักลงทุนควรมองการณ์ไกลในการพูดคุยกับบริษัทต่าง ๆ แทนที่จะมุ่งแต่ไล่ล่าผลกำไรระยะสั้น
"เป้าหมายของเราคือการส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนและการเพิ่มมูลค่าองค์กรในระยะกลางถึงระยะยาว" ยามาจิกล่าว
ยามาจิยังแสดงความหวังว่า ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น จะเดินหน้าออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาคเอกชนให้เติบโต และสานต่อความพยายามของอดีตนายกฯ ฟูมิโอะ คิชิดะ ในการผลักดันให้ประชาชนหันมาลงทุนแทนที่จะเก็บออมเงินเพียงอย่างเดียว