สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (16 ต.ค.) โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า โบอิ้ง (Boeing) ใกล้จะสรุปแผนระดมทุนมูลค่าราว 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยการออกหุ้นสามัญและหุ้นกู้แปลงสภาพที่มีข้อกำหนดบังคับแปลงสภาพ เพื่อเสริมสภาพคล่องที่ถดถอยจากปัญหาการประท้วงหยุดงาน อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าแผนระดมทุนนี้จะเริ่มดำเนินการเมื่อใด
โบอิ้งเปิดเผยในเอกสารที่ยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแลเมื่อวานนี้ว่า บริษัทอาจระดมทุนได้มากที่สุดถึง 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ด้วยการออกหุ้นสามัญและหุ้นกู้ เนื่องจากเครดิตเรตติ้ง "ระดับลงทุน" หรือ Investment Grade ของบริษัทกำลังเสี่ยงต่อการถูกปรับลด อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายหนึ่งเตือนว่า ต่อให้ระดมทุนได้ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ก็อาจยังไม่เพียงพอต่อการแก้ไขวิกฤตที่โบอิ้งกำลังเผชิญ
นอกจากนี้ โบอิ้งยังพิจารณาออกตราสารทางการเงินพิเศษเพื่อระดมทุนเพิ่มอีกสูงสุด 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจมีลักษณะคล้ายการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์จากรายได้บางส่วนของบริษัทในเครือ
อนึ่ง ยักษ์ใหญ่ในวงการการบินรายนี้กำลังเผชิญกับการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้น ตลอดจนการลดกำลังการผลิต และการสูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้า หลังเกิดเหตุแผงประตูของเครื่องบิน 737 MAX หลุดออกกลางอากาศเมื่อต้นเดือนม.ค. แม้ว่าราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวขึ้น 1% เมื่อวานนี้ แต่โดยรวมแล้วราคาหุ้นดิ่งลงมากกว่า 40% ในปีนี้
โบอิ้งประสบปัญหาเงินสดร่อยหรอมาตลอดทั้งปี จึงนำไปสู่การประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (15 ต.ค.) ว่า จะระดมทุนในตลาดทุนและได้รับวงเงินสินเชื่อ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากธนาคารรายใหญ่ ได้แก่ แบงก์ออฟอเมริกา (Bank of America), ซิตีแบงก์ (Citibank), โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) และเจพีมอร์แกน (JPMorgan)
แหล่งข่าวจากนักลงทุนและธนาคาร 4 รายเปิดเผยว่า ตัวแทนจากสถาบันการเงินเหล่านี้กำลังสำรวจความต้องการของตลาดต่อการเสนอขายหุ้นใหม่และหุ้นกู้แปลงสภาพที่มีข้อกำหนดบังคับแปลงสภาพ โดยคาดว่าจะเป็นหุ้นสามัญมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และหุ้นกู้แปลงสภาพอีก 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
หนึ่งในแหล่งข่าว 4 รายระบุว่า การออกหลักทรัพย์อาจเกิดขึ้นหลังจากที่โบอิ้งรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ในวันที่ 23 ต.ค. นี้ แต่อีกแหล่งข่าวเผยว่าโบอิ้งพยายามหลีกเลี่ยงการระดมทุนในช่วงที่พนักงานยังคงประท้วงหยุดงาน ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่าสร้างความเสียหายหลายสิบล้านดอลลาร์ต่อวัน
ไมเคิล บาร์ นักวิเคราะห์อาวุโสจากนอยเบอร์เกอร์ เบอร์แมน (Neuberger Berman) กล่าวว่า "ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะออกหุ้นเพิ่มทุนเมื่อใด แต่ตลาดเห็นพ้องกันว่าควรทำหลังจากการประท้วงยุติลงและผลประกอบการแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่มีต่อกระแสเงินสดทั้งในปัจจุบันและอนาคต"
แหล่งข่าว 2 รายระบุว่า ต่อให้ผลออกมาว่าในไตรมาสที่ 3 โบอิ้งจะใช้เงินสดอิสระน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่โบอิ้งอาจไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องดำเนินการบางอย่างก่อนที่การประท้วงจะยุติลง เพื่อป้องกันไม่ให้เครดิตเรตติ้งระดับ Investment Grade ของบริษัทฯ ตกลงไป หลังประกาศแผนระดมทุน ราคาหุ้นของโบอิ้งก็พุ่งขึ้น สะท้อนว่านักลงทุนบางส่วนเชื่อว่าราคาหุ้นอาจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
แหล่งข่าวจากนักลงทุนรายหนึ่งกล่าวว่า หุ้นกู้แปลงสภาพที่มีข้อกำหนดบังคับแปลงสภาพอายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 7-8% ต่อปี และสามารถแปลงเป็นหุ้นสามัญได้ในราคาที่สูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน 20% น่าจะดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนได้มาก
ทั้งนี้ หน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ 3 แห่ง ได้แก่ เอสแอนด์พี (S&P), มูดี้ส์ (Moody's) และฟิทช์ (Fitch) ได้เตือนโบอิ้งว่า จะลดอันดับเครดิตเรตติ้งของโบอิ้งลงสู่ระดับ "ขยะ" หากโบอิ้งก่อหนี้เพิ่มโดยไม่ชำระคืนหนี้ก้อนเดิมมูลค่าประมาณ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่จะครบกำหนดภายในวันที่ 1 ก.พ. 2569