โบอิ้ง (Boeing) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการบินและอวกาศของสหรัฐฯ รายงานตัวเลขขาดทุนมหาศาลกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 3/2567 เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการนัดหยุดงานของพนักงานกว่า 30,000 คนซึ่งดำเนินมานานถึง 5 สัปดาห์แล้ว
โบอิ้งขาดทุนสุทธิ 6.17 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. หรือขาดทุน 9.97 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งมากกว่าตัวเลขขาดทุน 1.64 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.70 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเดียวกันของปีก่อน หากไม่รวมรายการพิเศษ (One-time Item) โบอิ้งขาดทุน 10.44 ดอลลาร์ต่อหุ้น มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ระหว่าง 10.34-10.40 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ขณะที่รายได้ลดลง 1% เหลือ 1.78 หมื่นล้านดอลลาร์ จาก 1.81 หมื่นล้านดอลลาร์ เท่ากับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
หุ้นโบอิ้งร่วงกว่า 3% หลังเผยผลประกอบการดังกล่าว ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการลงมติของสหภาพแรงงานในช่วงต่อไปของวันนี้ ซึ่งจะทำให้ทราบว่า สมาชิกสหภาพแรงงานที่นัดหยุดงานจะกลับเข้าโรงงานหรือไม่
สมาคมช่างเครื่องและคนงานด้านการบินและอวกาศนานาชาติ (IAM) ซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงานประมาณ 33,000 คนที่โรงงานผลิตเครื่องบินโบอิ้งบริเวณชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ จะลงมติต่อข้อเสนอของบริษัทโบอิ้ง ซึ่งรวมถึงการปรับขึ้นเงินเดือน 35% ในช่วง 4 ปี โบนัสตามที่ตกลงในสัญญา 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ และการคงโบนัสตามผลงาน ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่โบอิ้งต้องการยกเลิก
ทั้งนี้ โบอิ้งและสหภาพแรงงานขัดแย้งกันเกี่ยวกับค่าแรงและข้อเรียกร้องอื่น ๆ โดยคนงานนัดหยุดงานตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. ทำให้โรงงานต่าง ๆ ของโบอิ้งใกล้เมืองซีแอตเทิลที่ผลิตเครื่องบินโดยสาร ซึ่งรวมถึงเครื่องบินรุ่นขายดีอย่าง 737 Max ต้องหยุดการผลิต
ข้อมูลระบุว่า การหยุดงานในแต่ละวันทำให้โบอิ้งเสียหายประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และส่งผลให้โบอิ้งต้องเริ่มดำเนินมาตรการประหยัดค่าใช้จ่ายขนานใหญ่ ซึ่งรวมถึงการสั่งให้พนักงานพักงาน การระงับการจ้างงานใหม่ และการปรับลดค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางของบริษัท
เมื่อต้นเดือนนี้ โบอิ้งได้ออกมาเตือนนักลงทุนให้เตรียมรับข่าวร้าย โดยเตือนว่าบริษัทกำลังเผชิญกับการขาดทุนรายไตรมาสที่เพิ่มขึ้นอย่างมากและยอดขายที่ลดลง พร้อมทั้งยังได้ยังประกาศแผนการเลิกจ้างพนักงานประมาณ 10% ของทั้งหมด
ขณะที่เคลลี ออร์ตเบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้แจ้งต่อนักลงทุนว่า ธุรกิจ "อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก"