นายเจเรมี ซีเกล ศาสตราจารย์จาก Wharton School ของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย กล่าวว่า ตลาดหุ้นจะได้รับอานิสงส์จากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ มากกว่าประธานาธิบดีในอดีต อันเนื่องจากนโยบายของนายทรัมป์ที่เอื้อต่อภาคธุรกิจ
"ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ถือเป็นประธานาธิบดีที่หนุนตลาดหุ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับประธานาธิบดีที่เราเคยมีมาในประวัติศาสตร์"
"นายทรัมป์วัดความสำเร็จในการบริหารประเทศสมัยแรกของเขาจากการดูว่าตลาดหุ้นปรับตัวดีแค่ไหน ผมมองว่ามีแนวโน้มน้อยมากที่เขาจะดำเนินนโยบายที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น" นายซีเกลกล่าวในรายการ Squawk Box ของสถานีข่าว CNBC
นอกจากนี้ นายซีเกลเชื่อว่านายทรัมป์จะนำมาตรการปรับลดอัตราภาษีของภาคเอกชนที่มีการใช้ในปี 2560 ในระหว่างการดำรงตำแหน่งสมัยแรกของเขากลับมาใช้ หลังจากเขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq ต่างทะยานขึ้นทำสถิติสงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว ขานรับชัยชนะในการเลือกตั้งของนายทรัมป์ โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า ชัยชนะของนายทรัมป์ รวมทั้งแนวโน้มที่พรรครีพับลิกันจะกวาดเสียงข้างมากในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะทำให้มาตรการต่าง ๆ ตามนโยบาย "Make America Great Again!" ของนายทรัมป์ถูกขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะนโยบายปรับลดอัตราภาษี การผ่อนคลายกฎระเบียบในภาคการเงิน และการใช้จ่ายทางการคลัง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และหนุนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาด