อัยการเกาหลีใต้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์เมื่อวันจันทร์ (25 พ.ย.) ขอให้พิพากษาจำคุกเจย์ วาย. ลี ประธานบริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics) เป็นเวลา 5 ปี ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทในเครือ ซึ่งช่วยให้ลีสามารถรักษาอำนาจการควบคุมบริษัทไว้ได้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นกรุงโซลได้มีคำพิพากษายกฟ้องลี ในข้อหาทุจริตทางบัญชีและการปั่นหุ้น อย่างไรก็ตาม ทางอัยการได้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำตัดสินดังกล่าว
การพิจารณาคดีในชั้นอุทธรณ์ที่จะสิ้นสุดในวันจันทร์นี้ เกิดขึ้นในช่วงที่ลีกำลังถูกตั้งคำถามมากขึ้นเกี่ยวกับความสามารถในการบริหารซัมซุง บริษัทผู้นำระดับโลกด้านการผลิตชิปหน่วยความจำและสมาร์ตโฟน ในขณะที่บริษัทกำลังประสบปัญหาทั้งผลกำไรที่ลดลงและราคาหุ้นที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง
ลีและอดีตผู้บริหารคนอื่น ๆ ถูกกล่าวหาว่าจงใจออกแบบการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทในเครือซัมซุงสองแห่ง ได้แก่ ซัมซุง ซีแอนด์ที (Samsung C&T) และเชอิล อินดัสทรีส์ (Cheil Industries) ในลักษณะที่ส่งผลเสียต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย
ในการแถลงปิดคดี อัยการกล่าวว่า ลีดำเนินการควบรวมกิจการโดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนตัวในฐานะผู้นำโดยพฤตินัยของเครือซัมซุง บนความเสียหายของผู้ถือหุ้นและนักลงทุน
ทั้งนี้ ลี ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่สามของซัมซุง กรุ๊ป ต้องเผชิญกับปัญหาหลายด้านในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งคดีความ การถูกจำคุก และแรงกดดันจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์ต่างชาติอย่างเอลเลียต (Elliott) โดยเฉพาะในประเด็นการควบรวมกิจการเมื่อปี 2558 ซึ่งช่วยให้ลีมีอำนาจควบคุมเครือซัมซุงมากขึ้น การควบรวมดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่บิดาของลีต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยอาการหัวใจวายในปี 2557