ราคาหุ้นของบริษัทซานริโอ (Sanrio) ของญี่ปุ่นร่วงลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2557 หลังจากที่ซานริโอซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เฮลโลคิตตี (Hello Kitty) ประกาศว่า ผู้ถือหุ้นซึ่งรวมถึงประธานบริษัท จะขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น
ข้อมูลจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กบ่งชี้ว่า ราคาหุ้นซานริโอร่วงลงมากถึง 17% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ (27 พ.ย.) โดยมีปริมาณการซื้อขายสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 3 เดือนถึง 300%
ตามเอกสารที่ยื่นต่อกระทรวงการคลังของญี่ปุ่นระบุว่า โทโมคุนิ สึจิ ประธานบริษัทซานริโอ และธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (MUFG Bank) จะขายหุ้นซานริโอประมาณ 25.9 ล้านหุ้น โดยจะมีการกำหนดราคาอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 10 ธ.ค.นี้
ชุนสุเกะ คุริยามะ นักวิเคราะห์ของเจฟเฟอรีส์ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (Jefferies Financial Group) ระบุว่า "การขายหุ้นโดยธนาคารดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการลดการถือครองหุ้นไขว้ (cross-shareholdings) และซานริโอมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสภาพคล่อง"
"เราคาดว่าจะมีแรงกดดันต่อราคาหุ้นในระยะสั้น แต่มุมมองพื้นฐานต่อธุรกิจตลาดตัวการ์ตูนและความหลากหลายของพอร์ตตัวการ์ตูนยังคงแข็งแกร่ง"
ราคาหุ้นซานริโอเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าในปีนี้ เทียบกับการเพิ่มขึ้น 13% ของดัชนี Topix เนื่องจากการพัฒนาตัวการ์ตูนที่ประสบความสำเร็จและการที่บริษัทได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในญี่ปุ่น และซานริโอยังได้ปรับเพิ่มเป้าหมายกำไรทั้งปีเมื่อเดือนที่แล้ว
การขายหุ้นนั้นเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้แล้ว แต่ "ผมคิดว่านักลงทุนไม่ได้เตรียมรับมือ" ทราวิส ลันดี นักวิเคราะห์จากควิดดิตี พาร์ตเนอร์ส (Quiddity Partners) ระบุในบันทึกที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์มสมาร์ตคาร์มา (Smartkarma)
ราคาหุ้นซานริโอ "อยู่ในระดับสูงมากและเสี่ยงต่อการร่วงลง เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนที่ซื้อหุ้นไว้ตามแนวโน้มในระยะสั้นได้เริ่มเทขายหุ้นออกมา" ลันดีกล่าว