ภาคธุรกิจประกันสุขภาพมะกันผวา หลังผู้บริหาร "ยูไนเต็ดเฮลธ์" ถูกยิงดับ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 6, 2024 10:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บรรดาบริษัทประกันสุขภาพของสหรัฐฯ ต่างพากันประเมินความเสี่ยงสำหรับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท หลังจากไบรอัน ธอมป์สัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทยูไนเต็ดเฮลธ์แคร์ (UnitedHealthcare) ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตในเมืองแมนฮัตตันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยยูไนเต็ดเฮลธ์แคร์เป็นบริษัทในเครือของยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป (UnitedHealth Group) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทประกันสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ขณะนี้ทั้งยูไนเต็ดเฮลธ์ และซีวีเอส เฮลธ์ (CVS Health) ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง ต่างก็นำรูปถ่ายของทีมผู้บริหารออกจากเว็บไซต์บริษัทแล้ว หลังจากธอมป์สันถูกยิงเสียชีวิต

ธอมป์สัน วัย 50 ปี ถูกยิงเมื่อเวลาประมาณ 06.45 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันพุธที่ 4 ธ.ค. ที่บริเวณด้านนอกโรงแรมฮิลตัน บนถนนซิกซ์อเวนิว เพียงไม่นานก่อนที่งานกิจกรรมวันพบปะนักลงทุนประจำปีของบริษัทยูไนเต็ดเฮลธ์จะเริ่มขึ้น โดยเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วนก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่ตำรวจระบุว่ามือปืนยังคงหลบหนี และทางตำรวจกำลังสืบสวนเพื่อหาแรงจูงใจในการก่อเหตุของมือปืนรายนี้

ข่าวการเสียชีวิตของธอมป์สันส่งผลให้ราคาหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ปิดร่วงลง 5.2% และเป็นปัจจัยฉุดดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงกว่า 200 จุดในวันพฤหัสบดี (6 ธ.ค.) โดยหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์เป็น 1 ใน 30 หลักทรัพย์ที่คำนวณในดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์

ยูไนเต็ดเฮลธ์ได้นำรูปของธอมป์สันและผู้บริหารคนอื่น ๆ ออกจากเว็บไซต์เมื่อวันพุธ โดยโฆษกของบริษัทไม่ได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวว่าอะไรเป็นแรงจูงใจ ขณะที่บริษัทซีวีเอสก็ได้นำรูปภาพของผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดออกจากเว็บไซต์เมื่อวันพฤหัสบดี และทางบริษัทปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใด ๆ เช่นกัน

โรเบิร์ต ดามิโก ผู้ก่อตั้งบริษัทเซียร์รา วัน คอนซัลติง (Sierra One Consulting) ซึ่งเคยทำงานกับสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) กล่าวว่า "การนำรูปภาพของผู้บริหารออกจากเว็บไซต์ แสดงให้เห็นว่าบริษัทเหล่านี้กำลังรับฟังสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญอย่างผมพูดมาโดยตลอดว่าบุคคลภายนอกสามารถระบุตัวตนและตามหาผู้บริหารของพวกเขาได้ง่ายเพียงใด"

ขณะที่เกลน คูเซรา ประธานฝ่ายบริการปรับปรุงความปลอดภัยของบริษัทอัลไลด์ ยูนิเวอร์แซล (Allied Universal) กล่าวว่า ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ภาคธุรกิจเฮลธ์แคร์ในสหรัฐฯ ได้สำรวจมาตรการรักษาความปลอดภัยใหม่ ๆ เนื่องจากต้องเผชิญกับความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นและความเป็นไปได้ของอาชญากรรมรุนแรง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ