บรอดคอม (Broadcom) ออกมาคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 1/2568 จะสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้เมื่อวันพฤหัสบดี (12 ธ.ค.) พร้อมชี้ว่าความต้องการชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) แบบสั่งทำพิเศษของบริษัทจะเติบโตแบบก้าวกระโดดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1/2568 เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เฉลี่ยที่ 1.457 หมื่นล้านดอลลาร์ จากข้อมูลของ LSEG
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หุ้นของบริษัทบรอดคอมจากเมืองพาโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ดีดตัวขึ้น 14% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ หลังจากที่ ฮก ตัน ซีอีโอของบรอดคอม บอกกับนักลงทุนผ่านการประชุมทางโทรศัพท์ว่า เขาคาดว่า AI จะสร้างโอกาสทางรายได้ให้กับบริษัทราว 6-9 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีงบการเงิน 2570
ตันเผยว่า ลูกค้าระดับ "ไฮเปอร์สเกล" 3 ราย มีแนวโน้มที่จะติดตั้งคลัสเตอร์ชิป AI หลายล้านชุดในช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้ เหล่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่างพยายามลดการพึ่งพาหน่วยประมวลผล AI ราคาแพงและขาดตลาดของอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นเจ้าตลาด จึงส่งผลดีต่อบรอดคอมที่ผลิตชิป AI แบบสั่งทำพิเศษขั้นสูงให้กับผู้ให้บริการที่เรียกว่า "ไฮเปอร์สเกลเลอร์"
นอกจากนี้ ความต้องการชิปเครือข่ายของบรอดคอมที่ช่วยในการรับส่งข้อมูลจำนวนมหาศาล ซึ่งถูกใช้ในแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น แชตจีพีที (ChatGPT) ของโอเพนเอไอ (OpenAI) ก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน เพราะบริษัทต่าง ๆ ทุ่มเงินลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในโครงสร้างพื้นฐานด้านเจนเอไอ (GenAI)
"ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบรอดคอมไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจ เพราะบริษัทเป็นหนึ่งในหลาย ๆ เจ้าที่ได้ประโยชน์จากกระแส AI ที่กำลังปลุกกระแสอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก โดยปีนี้รายได้จาก AI ของบรอดคอมเติบโตถึง 220%" เจค็อบ บอร์น นักวิเคราะห์จากอีมาร์เก็ตเตอร์ (eMarketer) กล่าว
แม้ต้องเผชิญกับการแข่งขันอันดุเดือดจากผลิตภัณฑ์อินฟินิแบนด์ (Infiniband) ของอินวิเดียที่มีลักษณะคล้ายอีเธอร์เน็ต แต่ในฐานะผู้ให้บริการอุปกรณ์เครือข่ายขั้นสูงรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง บรอดคอมยังคงได้อานิสงส์จากการเติบโตของศูนย์ข้อมูล AI
"บรอดคอมจะยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาด ASIC AI แบบสั่งทำพิเศษ ร่วมกับบริษัทอย่างมาร์เวลล์ (Marvell) เพราะผู้ให้บริการไฮเปอร์สเกลระดับ Tier 1 จะยังคงพัฒนาชิปของตัวเองออกมาอย่างต่อเนื่อง" คินหงอย จ๊าน นักวิเคราะห์อาวุโสจากซัมมิท อินไซต์ส (Summit Insights) กล่าว
แม้จะเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตชิป แต่บรอดคอมได้ขยายธุรกิจจนกลายเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากการเข้าซื้อกิจการต่าง ๆ เช่น วีเอ็มแวร์ (VMware) บริษัทคลาวด์คอมพิวติ้ง ด้วยมูลค่า 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยในไตรมาส 4/2567 ธุรกิจซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานเติบโตขึ้น 196% จากปีก่อนหน้า แตะระดับ 5.82 พันล้านดอลลาร์
อนึ่ง บรอดคอมรายงานรายได้ไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 1.405 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 50% จากปีก่อนหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.409 หมื่นล้านดอลลาร์
หากใช้เกณฑ์ที่ปรับค่าแล้ว บรอดคอมมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 1.42 ดอลลาร์ต่อหุ้น เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.38 ดอลลาร์ต่อหุ้น