หุ้นเทนเซ็นต์ โฮลดิ้งส์ (Tencent Holdings) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน ร่วงลง 5.4% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นฮ่องกงช่วงเช้าวันนี้ (7 ม.ค.) หลังจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพิ่มเทนเซ็นต์เข้าในบัญชีรายชื่อบริษัทที่ทำงานให้กับกองทัพจีน
นอกจากเทนเซ็นต์แล้ว ยังมีบริษัทอื่น ๆ ของจีนที่ถูกเพิ่มในบัญชี ได้แก่ บริษัท คอนเทมโพรารี แอมเพอเร็กซ์ เทคโนโลยี จำกัด หรือซีเอทีแอล (CATL) ผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก โดย CATL เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานสำหรับบริษัทผลิตรถยนต์อย่างฟอร์ด มอเตอร์ (Ford Motor) และเทสลา (Tesla)
ทั้งนี้ หุ้น CATL ร่วงลง 5.6% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นเซินเจิ้น
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ภายใต้กฎหมายป้องกันประเทศ (National Defense Authorization Act หรือ NDAA) ฉบับปี 2567 ของสหรัฐฯ นั้น กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จะถูกห้ามไม่ให้จัดซื้อสินค้าหรือบริการโดยตรงจากหน่วยงานที่อยู่ในบัญชีรายชื่อดังกล่าวภายในเดือนมิ.ย. 2569 และโดยทางอ้อมภายในเดือนมิ.ย. 2570
ทางด้านเทนเซ็นต์ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้การตัดสินใจดังกล่าวของสหรัฐฯ โดยระบุว่าการที่บริษัทถูกรวมอยู่ในบัญชีรายชื่อนั้น "เป็นความผิดพลาดอย่างชัดเจน"
"เราไม่ใช่บริษัทที่ทำงานให้กับกองทัพหรือเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ให้กับกองทัพ การถูกขึ้นบัญชีรายชื่อนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเรา ต่างจากกรณีการคว่ำบาตรหรือการควบคุมการส่งออก" เทนเซ็นต์ระบุเพิ่มเติม
ตามกฎหมายสหรัฐฯ กระทรวงจำเป็นต้องปรับปรุงและเผยแพร่รายชื่อบริษัททหารจีนที่ดำเนินการโดยตรงหรือโดยอ้อมในสหรัฐฯ เป็นประจำทุกปี โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะสกัดกั้นความทะเยอทะยานของจีนในการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อการใช้งานในกองทัพ
อย่างไรก็ตาม การมีชื่ออยู่ในบัญชีของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งผลให้หน่วยงานต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ดำเนินมาตรการทางกฎหมายใด ๆ ในทันที เช่น การควบคุมการส่งออก หรือการคว่ำบาตร หากแต่เป็นชื่อเสียงของบริษัทเหล่านี้ที่อาจจะได้รับผลกระทบ