ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของเกาหลีใต้ คาดการณ์ว่า กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 จะเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด เนื่องจากชิปหน่วยความจำระดับไฮเอนด์ของบริษัทซึ่งใช้เร่งการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ (AI) นั้น ยังคงตามหลังบริษัทคู่แข่ง
ซัมซุง ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ยื่นรายงานต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ในวันนี้ (8 ม.ค.) ระบุว่า บริษัทคาดการณ์ว่ากำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 จะอยู่ที่ 6.5 ล้านล้านวอน (4.46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2566 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.82 ล้านล้านวอน
อย่างไรก็ดี กำไรจากการดำเนินงานของซัมซุงต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยของนักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของยอนฮับ อินโฟแมกซ์ (Yonhap Infomax) อยู่ประมาณ 15.7%
ส่วนรายได้ในไตรมาส 4/2567 เพิ่มขึ้น 10.7% สู่ระดับ 75 ล้านล้านวอน จากระดับ 67.78 ล้านล้านวอนในไตรมาส 4/2566 อย่างไรก็ดี รายได้ในไตรมาส 4/2567 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เล็กน้อย
นักลงทุนเตรียมรับมือกับผลประกอบการที่น่าผิดหวังของซัมซุง เนื่องจากบริษัทยังคงล้าหลังคู่แข่งอย่างเอสเค ไฮนิกซ์ (SK Hynix) และไมครอน เทคโนโลยี (Micron Technology) ในตลาด AI โดยซัมซุงเผชิญกับความยากลำบากในการขอใบรับรองผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุดจากบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ส่งผลให้เอสเค ไฮนิกซ์สามารถครองส่วนแบ่งตลาดชิปหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูงได้มากขึ้น โดยชิปดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นในการเร่งการประมวล AI
ทั้งนี้ ซัมซุงมีแผนที่จะเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2567 ขั้นสุดท้ายในช่วงต่อไปของเดือนนี้