สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า ปี 2567 เป็นปีที่คึกคักที่สุดสำหรับกิจกรรมการควบรวมกิจการ (M&A) ที่เกี่ยวข้องกับญี่ปุ่นนับตั้งแต่ปี 2528 โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่กองทุนไพรเวทอิควิตี้เข้าซื้อธุรกิจที่ถูกขายโดยบริษัทต่าง ๆ ที่หันไปมุ่งเน้นด้านประสิทธิภาพเงินทุนมากขึ้น
ข้อมูลจากรีคอฟ ดาต้า (Recof Data) ระบุว่า จำนวนข้อตกลง M&A ที่ประกาศในปี 2567 ซึ่งมีผู้ซื้อหรือผู้ขายเป็นบริษัทญี่ปุ่น พุ่งขึ้น 17% จากปี 2566 แตะ 4,700 ดีล
หากพิจารณาด้านมูลค่า การทำธุรกรรม M&A เพิ่มขึ้น 8% แตะที่ 19.6 ล้านล้านเยน (1.24 แสนล้านดอลลาร์) ซึ่งนับเป็นสถิติสูงสุดเป็นอันดับสอง รองจากปี 2561 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากดีลครั้งประวัติศาสตร์ของทาเคดะ ฟาร์มาซูติคอล (Takeda Pharmaceutical) ที่เข้าซื้อกิจการ ไชร์ (Shire) บริษัทยาของไอร์แลนด์
สำหรับปี 2567 นั้น ดีลใหญ่ที่สุดตกเป็นของนิปปอน ไลฟ์ อินชัวรันส์ (Nippon Life Insurance) บริษัทประกันภัยของญี่ปุ่นที่เข้าซื้อกิจการรีโซลูชันส์ ไลฟ์ (Resolution Life) บริษัทประกันภัยจากสหรัฐฯ ด้วยมูลค่า 8.2 พันล้านดอลลาร์
รายงานระบุว่า การเติบโตของ M&A เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (TSE) ผลักดันให้บริษัทต่าง ๆ ปรับปรุงอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น ซึ่งส่งผลให้บริษัทต่าง ๆ ขายธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักหรือมีกำไรต่ำ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า จะมีดีลลักษณะนี้เพิ่มขึ้นอีกในปีนี้
"ความคาดหวังของนักลงทุนต่างชาติต่อตลาดญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การปฏิรูปของ TSE" ทาคาโอมิ โทมิโอกะ หัวหน้าทีมที่ปรึกษาญี่ปุ่นของคาร์ไลล์ กรุ๊ป (Carlyle Group) ระบุ "ด้วยต้นทุนการระดมทุนที่ต่ำกว่าในสหรัฐฯ และที่อื่น ๆ สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยนี้จะยังคงดำเนินต่อไปในปี 2568 และหลังจากนั้น"