สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ยื่นฟ้อง อีลอน มัสก์ ในวันที่ 14 ม.ค. โดยกล่าวหาว่า มัสก์เปิดเผยข้อมูลการเข้าซื้อหุ้นทวิตเตอร์ (Twitter) เมื่อปี 2565 ล่าช้าเกินกำหนด
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในคำร้องที่ยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. SEC ระบุว่า มัสก์ละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง โดยรอเกินกำหนดไป 11 วันกว่าจะเปิดเผยเกี่ยวกับการซื้อหุ้นสามัญของทวิตเตอร์ครั้งแรกจำนวน 5%
ตามกฎของ SEC นั้น นักลงทุนต้องเปิดเผยข้อมูลภายใน 10 วัน ซึ่งกรณีของมัสก์คือภายในวันที่ 24 มี.ค. 2565 เมื่อมีการถือครองหุ้นเกิน 5%
SEC ระบุว่า มัสก์ซื้อหุ้นทวิตเตอร์มูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริงก่อนจะเปิดเผยข้อมูลการซื้อหุ้นในวันที่ 4 เม.ย. 2565 ซึ่งขณะนั้นเขาถือหุ้น 9.2% แล้ว และราคาหุ้นของทวิตเตอร์พุ่งขึ้นกว่า 27% หลังการเปิดเผยดังกล่าว
สำหรับการฟ้องร้องในวันที่ 14 ม.ค.นี้ เรียกร้องให้มัสก์จ่ายค่าปรับทางแพ่งและคืนผลกำไรที่เขาไม่สมควรได้รับ
ในท้ายที่สุดนั้น มัสก์ได้เข้าซื้อกิจการของทวิตเตอร์ในราคา 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อเดือนต.ค. 2565 และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นเอ็กซ์ (X)
อเล็กซ์ สไพโร ทนายความของมัสก์ระบุในอีเมลว่า การฟ้องร้องครั้งนี้เป็นผลจากการคุกคามต่อเนื่องหลายปีของ SEC ต่อลูกความของเขา
"การฟ้องร้องในวันนี้แสดงให้เห็นว่า SEC ไม่มีคดีที่แท้จริง" เขากล่าว "มัสก์ไม่ได้ทำอะไรผิด และทุกคนมองออกว่านี่ไม่ใช่ข้อกล่าวหาที่จริงจัง"
สไพโรกล่าวเสริมว่า คดีนี้เป็นเพียงข้อกล่าวหาว่ามัสก์ไม่ได้ยื่นแบบฟอร์มหนึ่งฉบับตามกำหนดเวลา ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นความจริง ก็จะมีโทษเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) เปิดเผยว่า มัสก์ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีทรัพย์สินมูลค่า 4.17 แสนล้านดอลลาร์ โดยมัสก์เป็นเจ้าของธุรกิจต่าง ๆ เช่น เทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) บริษัทผลิตจรวด
ทั้งนี้ SEC ได้ยื่นฟ้องมัสก์ 6 วันก่อนการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของทรัมป์ในวันที่ 20 ม.ค.นี้