นาธาน แอนเดอร์สัน ผู้ก่อตั้งฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ช (Hindenburg Research) บริษัทวิจัยชื่อดังที่เน้นการขายชอร์ต ประกาศเตรียมยุติการดำเนินงาน หลังจากที่รายงานของบริษัทเคยสร้างแรงเทขายในตลาดหุ้นและจุดชนวนให้หน่วยงานกำกับดูแลเข้ามาตรวจสอบบริษัทที่ถูกขายชอร์ต จนทำให้มูลค่าตลาดของหลายบริษัท รวมถึงอดานี กรุ๊ป (Adani Group) ของอินเดีย และนิโคลา (Nikola) ของสหรัฐฯ หายไปหลายพันล้านดอลลาร์
แอนเดอร์สัน ซึ่งก่อตั้งฮินเดนเบิร์กเมื่อปี 2560 เขียนไว้บนเว็บไซต์เมื่อวันพุธ (15 ม.ค.) ว่า เขาตัดสินใจเช่นนี้เพราะลักษณะงานที่ "เข้มข้นมาก และบางครั้งก็กินเวลาชีวิตเกือบทั้งหมด"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นักลงทุนประเภทขายชอร์ต (Short-seller) อย่างแอนเดอร์สัน ซึ่งลงทุนเฉพาะเงินของบริษัทเอง จะเลือกขายชอร์ตในบริษัทที่พวกเขาเชื่อว่ามีปัญหาด้านบัญชี การบริหารผิดพลาด หรือทุจริต ซึ่งมักจะค้นพบได้หลังจากสืบสวนมาเป็นเวลานาน
อนึ่ง การขายชอร์ตคือการยืมหุ้นมาขายโดยหวังว่าราคาจะลดลง จากนั้นจึงซื้อคืนเพื่อทำกำไรจากส่วนต่าง แต่ถ้าราคาหุ้นกลับพุ่งขึ้น ผู้ขายอาจขาดทุนได้ไม่จำกัด
แอนเดอร์สันกล่าวว่า ไม่มีเหตุผลพิเศษอะไรในการตัดสินใจครั้งนี้ "ไม่มีภัยคุกคาม ไม่มีปัญหาสุขภาพ หรือปัญหาส่วนตัวร้ายแรงอะไร"
"แผนของเราคือจะปิดตัวลงหลังจากที่ไอเดียต่าง ๆ ที่เรากำลังทำอยู่เสร็จสิ้นลง และวันนั้นก็มาถึงแล้ว" แอนเดอร์สันกล่าว
"เราได้เขย่าอาณาจักรที่เราคิดว่าสมควรถูกเขย่า" แอนเดอร์สันเขียน พร้อมเสริมว่า มีคนเกือบ 100 คนที่ถูกทางการตั้งข้อหา ซึ่ง "อย่างน้อยส่วนหนึ่ง" เป็นผลมาจากการทำงานของฮินเดนเบิร์ก
แอนเดอร์สัน ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยคอนเนทิคัตและเริ่มงานด้านการเงินที่บริษัทข้อมูล เขียนว่า การทุ่มเทให้งานมากเกินไปทำให้เขาต้องเสียสละบางอย่าง และทำให้เขาคิดถึง "โลกภายนอกและคนที่ผมใส่ใจ"
"ตอนนี้ผมมองฮินเดนเบิร์กเป็นแค่บทหนึ่งในชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่นิยามตัวตนของผม" แอนเดอร์สันเขียน
สำหรับแผนอนาคต แอนเดอร์สันระบุว่า "ในอีก 6 เดือนข้างหน้า ผมวางแผนที่จะทำสื่อและวิดีโอต่าง ๆ เพื่อเปิดเผยทุกแง่มุมของโมเดลและวิธีการสืบสวนของเรา ให้เป็นโอเพนซอร์ส"