นายโจเซฟ มัวร์ นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ยังคงให้อันดับความน่าลงทุนต่อหุ้น Nvidia ที่ระดับ "overweight" แต่ได้ปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นสู่ระดับ 152 ดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 166 ดอลลาร์
"การเปิดตัวของ DeepSeek บ่งชี้ถึงนวัตกรรมในการพัฒนา AI และอาจนำไปสู่การควบคุมการส่งออก หรืออาจลดความต้องการในการใช้จ่าย ส่งผลให้เราปรับลดเป้าหมายราคาหุ้น Nvidia แต่แนวโน้มยังคงเป็นเชิงบวก" นายมัวร์ระบุในรายงาน
ทั้งนี้ ราคาหุ้น Nvidia บริษัทผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 5% ก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ หลังดิ่งลงเกือบ 17% วานนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ของหุ้นในกลุ่ม AI หลังการเปิดตัวโมเดล AI จากบริษัทดีปซีค (DeepSeek) ของจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐ
มูลค่าหุ้นตามราคาตลาดของ Nvidia ทรุดตัวลงเกือบ 6 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ ทำสถิติปรับตัวลงรุนแรงที่สุดภายในวันเดียวของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ ส่งผลให้ราคาหุ้น Nvidia ร่วงลง 11.8% นับตั้งแต่ต้นปี 2568 แต่ก็ยังพุ่งขึ้น 94% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
แรงเทขายดังกล่าว ทำให้มูลค่าหุ้นตามราคาตลาดของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐวูบหายไปถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ ท่ามกลางความวิตกที่ว่าอุตสาหกรรม AI ของจีนจะแซงหน้าซิลลิคอน แวลลีย์ของสหรัฐ
ทั้งนี้ DeepSeek เป็นธุรกิจสตาร์ตอัปของจีน ซึ่งตั้งขึ้นในปี 2566 แต่ได้เปิดตัวโมเดล AI ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าแชตบอตระดับโลกอย่าง ChatGPT ของ OpenAI โดยใช้ต้นทุนน้อยกว่าและสามารถทำงานบนชิปที่มีขีดความสามารถต่ำกว่า
DeepSeek เปิดตัวโมเดล AI แบบ open-source ในเดือนธ.ค.2567 โดยระบุว่าใช้เวลาในการพัฒนาเพียง 2 เดือน และใช้ต้นทุนต่ำกว่า 6 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ใช้ชิป H800s ซึ่งเป็นชิปประสิทธิภาพต่ำของ Nvidia
นอกจากนี้ DeepSeek กลายเป็นแอปพลิเคชั่นฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดในสหรัฐผ่านทาง App Store ของบริษัทแอปเปิ้ล โดยสามารถโค่นตำแหน่งของแอปพลิเคชั่น ChatGPT ของ OpenAI
การเปิดตัวดังกล่าวของ DeepSeek สร้างความตื่นตระหนกต่อความเป็นผู้นำโลกในธุรกิจ AI ของสหรัฐ และเกิดการตั้งคำถามต่อการที่บริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีได้ใช้งบประมาณมากมายในการพัฒนาโมเดล AI และการตั้งศูนย์ดาต้าเซนเตอร์ในช่วงที่ผ่านมา