นลท.รายย่อยฉวยจังหวะซื้อหุ้น Nvidia มากเป็นประวัติการณ์ หลังทรุดจากข่าว DeepSeek

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 28, 2025 20:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ข้อมูลจาก Vanda Research ระบุว่า นักลงทุนรายย่อยได้พากันเข้าซื้อหุ้น Nvidia มากเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ หลังดิ่งลงเกือบ 17% ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ของหุ้นในกลุ่ม AI หลังการเปิดตัวโมเดล AI จากบริษัทดีปซีค (DeepSeek) ของจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐ

ทั้งนี้ นักลงทุนรายย่อยได้ซื้อหุ้น Nvidia คิดเป็นวงเงิน 562.2 ล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวงเงินสูงสุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่ปี 2557

Vanda Research ระบุว่า นักลงทุนรายย่อยได้ซื้อหุ้น Nvidia อย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยในไตรมาสที่ผ่านมา นักลงทุนได้ซื้อหุ้น Nvidia มูลค่ามากถึง 7.3 พันล้านดอลลาร์ แต่วงเงินดังกล่าวยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของคำสั่งซื้อที่สูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2567

ราคาหุ้น Nvidia บริษัทผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 5% ก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ หลังดิ่งลงอย่างหนักวานนี้

ทั้งนี้ มูลค่าหุ้นตามราคาตลาดของ Nvidia ทรุดตัวลงเกือบ 6 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ ทำสถิติปรับตัวลงรุนแรงที่สุดภายในวันเดียวของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ ส่งผลให้ราคาหุ้น Nvidia ร่วงลง 11.8% นับตั้งแต่ต้นปี 2568 แต่ก็ยังพุ่งขึ้น 94% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

แรงเทขายดังกล่าว ทำให้มูลค่าหุ้นตามราคาตลาดของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐวูบหายไปถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ ท่ามกลางความวิตกที่ว่าอุตสาหกรรม AI ของจีนจะแซงหน้าซิลลิคอน แวลลีย์ของสหรัฐ

ทั้งนี้ DeepSeek เป็นธุรกิจสตาร์ตอัปของจีน ซึ่งตั้งขึ้นในปี 2566 แต่ได้เปิดตัวโมเดล AI ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าแชตบอตระดับโลกอย่าง ChatGPT ของ OpenAI โดยใช้ต้นทุนน้อยกว่าและสามารถทำงานบนชิปที่มีขีดความสามารถต่ำกว่า

DeepSeek เปิดตัวโมเดล AI แบบ open-source ในเดือนธ.ค.2567 โดยระบุว่าใช้เวลาในการพัฒนาเพียง 2 เดือน และใช้ต้นทุนต่ำกว่า 6 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ใช้ชิป H800s ซึ่งเป็นชิปประสิทธิภาพต่ำของ Nvidia

นอกจากนี้ DeepSeek กลายเป็นแอปพลิเคชั่นฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดในสหรัฐผ่านทาง App Store ของบริษัทแอปเปิ้ล โดยสามารถโค่นตำแหน่งของแอปพลิเคชั่น ChatGPT ของ OpenAI

การเปิดตัวดังกล่าวของ DeepSeek สร้างความตื่นตระหนกต่อความเป็นผู้นำโลกในธุรกิจ AI ของสหรัฐ และเกิดการตั้งคำถามต่อการที่บริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีได้ใช้งบประมาณมากมายในการพัฒนาโมเดล AI และการตั้งศูนย์ดาต้าเซนเตอร์ในช่วงที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ