หุ้นฮอนด้า มอเตอร์ (Honda Motor) พุ่งขึ้น 4.2% และหุ้นนิสสัน มอเตอร์ (Nissan Motor) ทะยานขึ้น 7.4% ในวันนี้ หลังจากหนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุนของญี่ปุ่นรายงานว่า ฮอนด้าและนิสสันกำลังพิจารณายกเลิกการเจรจาควบรวมกิจการ
อาซาฮี ชิมบุน รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บอร์ดบริหารของฮอนด้าและนิสสันจะจัดการประชุมในเร็ว ๆ นี้ เพื่อหารือเรื่องการยุติการควบรวมกิจการ หลังจากที่การเจรจาควบรวมกิจการไม่เป็นไปตามที่ฮอนด้าคาดหวังไว้ โดยฮอนด้าเสนอให้นิสสันเป็นบริษัทในเครือ แต่นิสสันคัดค้านข้อเสนอดังกล่าว
คาร์ล เบราเออร์ นักวิเคราะห์จากไอซีคาร์ (iSeeCars) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยยานยนต์กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของราคาหุ้นฮอนด้าและนิสสันสะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนมองว่าความไม่แน่นอนในระยะใกล้นี้ได้ลดลงแล้ว
"อย่างไรก็ดี ทิศทางในระยะยาวของผู้ผลิตรถยนต์ทั้งสองยังคงไม่แน่นอน โดยแต่ละบริษัทมีประเด็นต่างๆ ที่ต้องจัดการ" เบราเออร์กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี
ในเดือนธ.ค. 2567 ฮอนด้าและนิสสันประกาศว่าทั้งสองบริษัทได้ทำการเจรจาอย่างเป็นทางการเพื่อควบรวมกิจการ และจะมีการสรุปผลการเจรจาในเดือนมิ.ย.ปีนี้ โดยการควบรวมกิจการครั้งใหญ่นี้จะนำไปสู่การจัดตั้งบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของโลกเมื่อพิจารณาจากยอดขาย
บริษัทมิตซูบิชิ ซึ่งเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของนิสสัน ก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในแผนการควบรวมกิจการดังกล่าวด้วย โดยมีรายงานว่ามิตซูบิชิมีกำหนดจะตัดสินใจในช่วงกลางเดือนก.พ.หรือหลังจากนั้น
นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์เมื่อไม่นานมานี้ว่า ข้อเสนอในการควบรวมกิจการระหว่างฮอนด้าและนิสสันเป็นผลมาจากการที่นิสสันเผชิญกับสถานการณ์การเงินที่ยากลำบาก ประกอบกับการปรับโครงสร้างของบริษัทเรโนลต์ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ยาวนานของนิสสัน โดยในรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ของนิสสันนั้น ทางบริษัทได้เปิดเผยความตั้งใจที่จะปลดพนักงาน 9,000 ตำแหน่ง และลดกำลังการผลิตรถยนต์ทั่วโลกลง 20%
ทั้งนี้ กำไรจากการดำเนินงานของนิสสันทรุดตัวลง 90% และรายได้สุทธิดิ่งลง 94% ในช่วงครึ่งแรกของปีงบการเงิน 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกั้นของปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ดี นิสสันและฮอนด้ายังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว