บริษัท มี่เสวี่ย กรุ๊ป (Mixue Group) ผู้นำธุรกิจชานมไข่มุกและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของจีน เตรียมเสนอขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง มูลค่า 3.45 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (443.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามเอกสารที่ยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแลในวันนี้ (21 ก.พ.)
บริษัทเริ่มเปิดจองซื้อหุ้นตั้งแต่วันนี้ โดยเสนอขายหุ้นทั้งสิ้น 17.1 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 202.5 ดอลลาร์ฮ่องกง และมีกำหนดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงวันที่ 3 มี.ค.นี้
การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ส่งผลให้มี่เสวี่ยมีมูลค่าบริษัทถึง 9.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีนักลงทุนหลัก 5 รายร่วมลงทุนแล้วมูลค่ารวม 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่า มี่เสวี่ยเคยวางแผนระดมทุนผ่าน IPO สูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ได้ปรับลดวงเงินลง เนื่องจากบริษัทยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้เงินทุน
ปัจจุบัน มี่เสวี่ยมีสาขาทั้งสิ้น 45,000 แห่งทั่วโลก ครอบคลุมจีนแผ่นดินใหญ่และอีก 11 ประเทศ ผ่านระบบแฟรนไชส์
มี่เสวี่ยโดดเด่นด้วยมาสคอตตุ๊กตาหิมะ "Snow King" สวมมงกุฎและผ้าคลุมสีแดง ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่น โดยจำหน่ายเครื่องดื่มชาผลไม้ กาแฟ และไอศกรีม ในราคาเพียงประมาณ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
ข้อมูล ณ สิ้นเดือนก.ย. 2567 ระบุว่า กว่า 99% ของร้านมี่เสวี่ยปิงเฉิง (Mixue Bingcheng) ทั้งหมดเป็นร้านในรูปแบบแฟรนไชส์ แต่รายได้หลักของบริษัทไม่ได้มาจากค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียง 2.4% ของรายได้รวมในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการจำหน่ายวัตถุดิบและอุปกรณ์ให้กับร้านแฟรนไชส์
จู ตันเผิง นักวิเคราะห์อิสระด้านอาหารและเครื่องดื่ม เปิดเผยว่า แม้มี่เสวี่ยจะเป็นเครือข่ายร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีสาขามากที่สุดในโลก แต่ยังมีโอกาสเติบโตในจีนอีกมาก โดยเฉพาะในระดับอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ที่มีร้านค้าขนาดเล็กที่ไม่มีมาตรฐานกว่า 200,000 แห่ง ซึ่งมี่เสวี่ยมีศักยภาพเข้าไปแทนที่ได้
ทั้งนี้ มี่เสวี่ยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2540 ในนครเจิ้งโจว โดยจาง หงเชา ที่เริ่มต้นธุรกิจจากเครื่องทำน้ำแข็งไสแบบโฮมเมด โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 มี่เสวี่ยสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มได้มากถึง 7.1 พันล้านแก้ว