หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล (WSJ) รายงานอ้างแหล่งข่าวเมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) ว่า เชลล์ (Shell) บริษัทพลังงานรายใหญ่ของอังกฤษ อยู่ระหว่างการพิจารณาขายสินทรัพย์ด้านเคมีภัณฑ์ในยุโรปและสหรัฐฯ
รายงานระบุว่า เชลล์ได้ว่าจ้างมอร์แกน สแตนลีย์ ให้ดำเนินการตรวจสอบการดำเนินงานด้านเคมีภัณฑ์ของบริษัท พร้อมเผยด้วยว่า ผู้ซื้อสินทรัพย์ของเชลล์อาจรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์เอกชนและบริษัทในตะวันออกกลางที่ต้องการขยายการดำเนินงานในตะวันตก
อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบยังคงอยู่ในขั้นต้น และเชลล์ยังไม่ได้ตัดสินใจแน่ชัดเกี่ยวกับการขายสินทรัพย์ดังกล่าว หนึ่งในนั้นคือ โรงงานเดียร์ ปาร์ก (Deer Park) ในรัฐเท็กซัส ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับโรงกลั่นที่เชลล์ขายหุ้นทั้งหมดให้กับพันธมิตรร่วมทุนอย่าง พีเม็กซ์ (Pemex) บริษัทน้ำมันของรัฐบาลเม็กซิโก
ทั้งนี้ เชลล์ได้ขายศูนย์การกลั่นและเคมีภัณฑ์ในสิงคโปร์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์ฯ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เชลล์ได้ออกมาเตือนเมื่อต้นปีนี้ว่า บริษัทคาดว่าการซื้อขายในแผนกเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์น้ำมันจะลดลงอย่างมากเมื่อเทียบรายไตรมาส เนื่องจากความต้องการตามฤดูกาลลดลง
วาเอล ซาวัน ซีอีโอของเชลล์ มุ่งเน้นไปที่การลดต้นทุนและนำบริษัทกลับสู่ภาคธุรกิจที่ทำกำไรสูงสุด ซึ่งได้แก่ น้ำมัน ก๊าซ และเชื้อเพลิงชีวภาพ ขณะที่ออกจากภาคธุรกิจพลังงานหมุนเวียน