BYD ขายหุ้นเพิ่มทุน 5.59 พันล้านดอลล์ในฮ่องกง ระดมทุนครั้งใหญ่สุดรอบ 4 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 4, 2025 12:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บีวายดี (BYD) ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีน ประกาศในวันนี้ (4 มี.ค.) ว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการระดมทุน 5.59 พันล้านดอลลาร์จากการเสนอขายหุ้น โดยเพิ่มจำนวนหุ้นจากแผนเดิม 118 ล้านหุ้น เป็น 129.8 ล้านหุ้น นับเป็นการระดมทุนที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกงในรอบ 4 ปี และเป็นการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกในรอบทศวรรษ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หุ้นของ BYD เปิดตลาดร่วงลง 8% ในวันนี้ สอดคล้องกับที่บริษัทเสนอขายหุ้นในราคา 335.20 ดอลลาร์ฮ่องกง (43.11 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าราคาปิดของวันจันทร์ (3 มี.ค.) 7.8%

อัล-ฟุตตาอิม แฟมิลี่ ออฟฟิศ (Al-Futtaim Family Office) จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เข้าร่วมเป็นนักลงทุนหลักในครั้งนี้ พร้อมวางแผนเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ BYD แม้บริษัทไม่ได้เปิดเผยมูลค่าการลงทุนก็ตาม

บริษัทวางแผนใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนา ขยายธุรกิจในต่างประเทศ เสริมสภาพคล่องเงินทุนหมุนเวียน และเพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไป

BYD ซึ่งก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของจีนตั้งแต่ปี 2565 มียอดขายรถยนต์รวมกว่า 4 ล้านคันในปี 2567 โดยกว่า 90% เป็นการขายในประเทศจีน ครองส่วนแบ่งมากกว่าหนึ่งในสามของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและรถปลั๊กอินไฮบริดในจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

การระดมทุนครั้งนี้ถือเป็นการระดมทุนครั้งใหญ่ที่สุดในฮ่องกงนับตั้งแต่เหม่ยถวน (Meituan) ระดมทุนได้ 6.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564 จากข้อมูลของ LSEG

ขณะนี้ BYD กำลังเร่งขยายกำลังการผลิตและเพิ่มการจ้างงาน โดยตั้งเป้าขายรถยนต์ 5-6 ล้านคันในปี 2568 ซึ่งจะทำให้บริษัทอยู่ในระดับเดียวกับยักษ์ใหญ่อย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors) และสเตลแลนทิส (Stellantis) โดย BYD เปิดเผยว่ามีพนักงานเกือบ 1 ล้านคน ณ ต้นเดือนก.ย. ซึ่งมากกว่าทั้งโตโยต้า (Toyota) และโฟล์คสวาเกน (Volkswagen AG)

นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ป (Citigroup) ระบุว่า การที่ BYD ระดมทุนในฮ่องกงจะช่วยเร่งแผนการขยายธุรกิจระหว่างประเทศ

"BYD มีกระแสเงินสดอิสระและเงินสดสุทธิจำนวนมากในประเทศจีน แต่ขาดความยืดหยุ่นและมีต้นทุนสูงในการโอนเงินหยวนจากจีนไปสู่สกุลเงินต่างประเทศ" เจฟฟ์ จง นักวิเคราะห์ของซิตี้เขียนในรายงานวิจัย

อนึ่ง โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs), ยูบีเอส (UBS) และซิติก ซิเคียวริตีส์ (Citic Securities) เป็นผู้นำในการจัดการขายหุ้นครั้งนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ