หุ้นเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้งส์ (Seven & i Holdings Co.) ไม่สามารถพลิกขึ้นสู่แดนบวกได้ แม้ผู้ประกอบการเครือร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น (7-Eleven) ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า บริษัทอาจบอกปัดข้อเสนอซื้อกิจการมูลค่า 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์จากบริษัทอาลีมองตาซิยง คูช-ตาร์ (Alimentation Couche-Tard) ของแคนาดา
เซเว่น แอนด์ ไอ ยืนยันว่า บริษัทยังคงหารืออย่างสร้างสรรค์กับคูช-ตาร์ โดยระบุในแถลงการณ์วันนี้ (4 มี.ค.) ว่า "เราจะพิจารณาทุกตัวเลือก ซึ่งรวมถึงข้อเสนอของอาลีมองตาซิยง คูช-ตาร์ อย่างรอบคอบต่อไป เพื่อสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นของเรา"
แถลงการณ์ของบริษัทมีขึ้นหลังจากที่หนังสือพิมพ์โยมิอูริ (Yomiuri) รายงานในวันเดียวกันว่า เซเว่น แอนด์ ไอ วางแผนที่จะปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการ เนื่องจากข้อกังวลเรื่องการผูกขาดการค้าในสหรัฐฯ ข่าวดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นของบริษัทร่วงลงไปถึง 12% แม้ในช่วงบ่ายจะกระเตื้องขึ้นมาอยู่ที่ลบ 7.8% หลังจากออกมาปฏิเสธข่าวแล้วก็ตาม
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาหุ้นเซเว่น แอนด์ ไอ อยู่ในช่วงขาลงตั้งแต่มีข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การเจรจาข้อตกลงซื้อขายกิจการกับตระกูลอิโตะล้มเหลว และหุ้นเซเว่น แอนด์ ไอ ร่วงลงไปแล้ว 19% ในปีนี้ ทำให้มูลค่าบริษัทลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 5.2 ล้านล้านเยน (3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยส่วนที่เพิ่มขึ้นมานับตั้งแต่ที่คูช-ตาร์เสนอซื้อเมื่อเดือนส.ค.ปีที่แล้วนั้นหายไปจนเกือบหมด
ข่าวคราวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเสนอซื้อกิจการเซเว่น แอนด์ ไอ กลายเป็นมหากาพย์ที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในฐานะที่เป็นกรณีทดสอบความเปิดกว้างของญี่ปุ่นต่อทุนต่างชาติ หลังจากตลาดหลักทรัพย์โตเกียวได้ดำเนินการปฏิรูปครั้งใหญ่เมื่อปีที่แล้ว เพื่อให้บริษัทจดทะเบียนสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นมากขึ้น รวมถึงการเรียกร้องให้บริษัทต่าง ๆ ปรับปรุงสถานะเงินทุนของตน ซึ่งการปฏิรูปเหล่านี้ส่วนใหญ่ได้ส่งผลให้มีการซื้อหุ้นคืนเพิ่มขึ้น