7 หุ้นเทคยักษ์จีนมูลค่าพุ่ง 4.39 แสนล้านดอลล์ ขณะที่กลุ่ม "Mag Seven" สหรัฐฯ ร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 7, 2025 15:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้นเทคโนโลยีจีนแสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่เหนือกว่าคู่แข่งจากสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญในช่วงต้นปี 2568 โดยกลุ่ม "7 titans" ของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 40% ในขณะที่กลุ่ม "Magnificent Seven" ของสหรัฐฯ กลับปรับตัวลดลง 10%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานวันนี้ (7 มี.ค.) ว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นหลังจากความสำเร็จของดีปซีค (DeepSeek) ที่ได้ท้าทายข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับขีดความสามารถด้าน AI ของจีนเมื่อเทียบกับสหรัฐฯ

จารุ จันนานา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ Saxo Markets กล่าวว่า "ความสำเร็จของดีปซีคตามมาด้วยชุดโมเดล AI จากจีน ได้ย้ำเตือนให้ทั่วโลกตระหนักว่า ไม่ควรมองข้ามศักยภาพด้านนวัตกรรมของจีน แม้จะมีการจำกัดการส่งออกชิปจากสหรัฐฯ ก็ตาม ... โมเมนตัมของหุ้น AI จีนยังมีโอกาสเติบโตได้อีก เนื่องจากมีมูลค่าถูก"

การเติบโตของหุ้นเทคโนโลยีจีนส่งผลให้มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น 4.39 แสนล้านดอลลาร์ โดยทีมนักกลยุทธ์ของโซซิเอเต้ เจเนเรล (SocGen) ที่นำโดยแฟรงค์ เบนซิมรา ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ว่า กลุ่ม 7 titans ของจีน ซึ่งประกอบด้วย Alibaba, Tencent, Xiaomi, BYD, SMIC, JD.com และ NetEase มีการซื้อขายที่อัตราส่วนราคาต่อกำไรล่วงหน้า (forward P/E) ที่ 18 เท่า ซึ่งต่ำกว่ากลุ่ม Magnificent Seven ของสหรัฐฯ ถึง 40%

โมเมนตัมการเติบโตได้รับแรงสนับสนุนจากรัฐบาลปักกิ่งและการพัฒนาด้าน AI ใหม่ ๆ ส่งผลให้ดัชนี Hang Seng Tech แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2564 แม้ว่าจะยังต่ำกว่าจุดสูงสุดในปี 2564 อยู่ 40% ก็ตาม

ขณะเดียวกัน หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ทั้งความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าที่สูงเกินไป นโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาด และความต้องการผลประกอบการที่แข็งแกร่งขึ้นจากนักลงทุน

แม้ว่านักลงทุนบางส่วนยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับตลาดจีน เนื่องจากความผันผวนในอดีตและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน หุ้นเทคโนโลยีจีนได้กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในตลาดสหรัฐฯ

เหว่ย์เซิน หลิง กรรมการผู้จัดการของ Union Bancaire Privee กล่าวว่า "มีปัจจัยขับเคลื่อนที่จำเป็นสำหรับหุ้นเทคโนโลยีจีนที่จะทำผลงานได้ดีกว่า รวมถึงการสนับสนุนจากรัฐบาลระดับสูง การฟื้นตัวของผลกำไร และธีมการเติบโตเชิงโครงสร้างใน AI"

"มูลค่าหุ้นเทคสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นมาสองปีแล้ว และตอนนี้ความผิดหวังในผลประกอบการ ประกอบกับปัจจัยมหภาค กำลังผลักดันให้เกิดการเทขาย" และนั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ "ผลักดันให้เกิดการโยกเงินลงทุนจากสหรัฐฯ ไปยังยุโรปและจีน" เหว่ย์เซิน หลิง กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ