ราคาหุ้นของบริษัทโบอิ้งพุ่งขึ้นกว่า 6% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันนี้ ขณะที่นักลงทุนเพิ่มความเชื่อมั่นต่อสถานะทางการเงินของบริษัท หลังการกล่าวถ้อยแถลงของนายไบรอัน เวสต์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทโบอิ้ง
นายเวสต์กล่าวว่า การเผาเงินทุน (cash burn) ของบริษัทได้ลดลงในไตรมาสนี้ ขณะที่การผลิตเครื่องบินได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ การเผาเงินทุนเป็นค่าใช้จ่ายก่อนที่บริษัทจะมีกระแสเงินสดเป็นบวกจากการดำเนินงาน โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นมาตรวัดสำหรับนักลงทุนในการประเมินว่าบริษัทจะใช้เวลานานเพียงใดก่อนที่จะมีกำไร
"เราคิดว่าเรามีการเริ่มต้นที่ดีในปีนี้ โดยตัวเลขการเผาเงินทุนอาจจะเหลือเพียงไม่กี่ร้อยล้านดอลลาร์" นายเวสต์กล่าว และเสริมว่าบริษัทไม่มีความกังวลเกี่ยวกับมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยผลกระทบใด ๆ จะขึ้นอยู่กับว่าความไม่แน่นอนดังกล่าวจะมีระยะเวลานานเท่าใด
เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา บริษัทโบอิ้งเปิดเผยว่า บริษัทประสบภาวะขาดทุนในไตรมาส 4/2567 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่มีรายได้น้อยกว่าคาด
ทั้งนี้ โบอิ้งเปิดเผยว่า บริษัทมีตัวเลขขาดทุน 5.90 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.65 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 1.524 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.621 หมื่นล้านดอลลาร์
โบอิ้งประสบภาวะขาดทุนติดต่อกันเป็นปีที่ 6 โดยครั้งล่าสุดที่บริษัทมีกำไรได้เกิดขึ้นในปี 2561 แต่หลังจากนั้น ผลประกอบการของบริษัทก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เครื่องบินโบอิ้ง 737 Max ตกถึง 2 ครั้ง, การแพร่ระบาดของโควิด-19, การตรวจพบความบกพร่องในการผลิตเครื่องบิน, ค่าใช้จ่ายที่พุ่งขึ้น รวมทั้งเหตุการณ์ล่าสุดในต้นปี 2567 ซึ่งประตูเครื่องบินโบอิ้ง Max 9 jetliner ได้เปิดออกกลางอากาศขณะบินขึ้นจากสนามบินเมืองพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน