สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (28 เม.ย.) ขณะที่นักลงทุนรอคอยความชัดเจนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ หลังจากทั้งสองฝ่ายส่งสัญญาณที่ขัดแย้งกัน นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะข้อมูลแรงงานและเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.46% แตะที่ระดับ 99.012
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 142.12 เยน จากระดับ 143.57 เยนในวันศุกร์ (25 เม.ย.), อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8208 ฟรังก์ จากระดับ 0.8271 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3844 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3860 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1413 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1380 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3426 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3329 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ขณะที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ส่งสัญญาณที่ขัดแย้งกัน โดยสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (27 เม.ย.) ว่า เขาไม่ได้หารือกับเจ้าหน้าที่จีน และเขาไม่ทราบว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้มีการพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงหรือไม่
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ล่าสุดในวันจันทร์ (28 เม.ย.) ว่า ปธน.สีและปธน.ทรัมป์ไม่ได้มีการหารือกันเกี่ยวกับภาษีศุลกากร ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของปธน.ทรัมป์ที่ว่าการเจรจากับจีนมีความคืบหน้า
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลแรงงานและเงินเฟ้อ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมี.ค.
ส่วนในวันพุธจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP เดือนเม.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2568 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค.
สำหรับในวันศุกร์นี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนเม.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 129,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 228,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.2% ในเดือนเม.ย.