ค่าเงินดอลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 99.03 เยน จากระดับของวันพุธที่ 100.18 เยน และอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9463 ฟรังค์ จากระดับ 0.9655 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3104 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.2881 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ1.5192 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4923 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.9176 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9115 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงหลังจากเบอร์นันเก้กล่าวสุนทรพจน์ที่สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากอัตราว่างงานยังสูงและอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด
นายเบอร์นันเก้ยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแรงลงอันเนื่องมาจากการปรับขึ้นภาษีและการปรับลดงบรายจ่ายของรัฐบาลกลาง โดยถ้อยแถลงของนายเบอร์นันเก้มุ่งเน้นไปที่ความสำเร็จและความล้มเหลวในการบริหารจัดการเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา และเขาไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโครงการซื้อพันธบัตรในระหว่างการแถลงครั้งนี้
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงิน เฟดได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และได้เสร็จสิ้นการใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินเชิงปริมาณ (QE) ไปแล้ว 2 รอบ ซึ่งก็คือ QE1 และ QE2 โดยปัจจุบันเฟดกำลังเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) วงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน หรือที่เรียกว่า QE3
นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 ก.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 16,000 ราย สู่ระดับ 360,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 340,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 343,000 ราย