ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 96.38 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 97.65 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9217 ฟรังค์ จากระดับ 0.9259 ฟรังค์
ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3332 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3306 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.5498 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5357 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.8990 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8985 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงเนื่องจากความไม่แน่นอนว่าเฟดจะเดินหน้าใช้ QE ต่อไปหรือไม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณเป็นระลอก โดยนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวว่า เฟดอาจเริ่มลดปริมาณการซื้อพันธบัตรในช่วงแรกในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินครั้งใดครั้งหนึ่งที่เหลืออยู่ในช่วงปีนี้ ขณะที่เฟดยังมีกำหนดการประชุมอีก 3 ครั้งในปีนี้
ขณะที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก กล่าว่วา เขาไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เฟดจะชะลอมาตรการกระตุ้นทางการเงินโดยการลดขนาดแผนการซื้อพันธบัตรวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในเดือนก.ย.นี้
เงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะยังไม่ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมวันนี้
ส่วนเงินยูโรพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากผลสำรวจระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของเยอรมนีในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 51.3 ซึ่งสูงสุดในรอบ 5 เดือน จาก 50.4 ในเดือนมิ.ย. โดยดัชนีที่สูงกว่า 50 แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคบริการมีการขยายตัว
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ส.ค.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 336,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 326,000 ราย