ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.80 เยน จากระดับของวันพุธที่ 98.46 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9101 ฟรังค์ จากระดับ 0.9094 ฟรังค์
ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3488 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3523 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.6042ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6077 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.9358 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9362 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ก.ย. ปรับตัวลดลง 5,000 ราย แตะระดับ 305,000 ราย ซึ่งใกล้กับระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 325,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 309,000 ราย
การปรับตัวลงของจำนวนคนว่างงารายสัปดาห์สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนมองว่าตัวเลขดังกล่าวอาจกระตุ้นให้เฟดตัดสินใจลดขนาดมาตรการ QE โดยในการประชุมครั้งล่าสุดในเดือนนี้ เฟดประกาศว่าจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายจนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 6.5%
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 2/2556 โดยระบุว่าจีดีพีไตรมาส 2 ขยายตัว 2.5% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 2.5%
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์แข็งค่าในกรอบที่จำกัด เนื่องจากตลาดการเงินมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของรัฐบาลสหรัฐ หลังจากนายจาค็อบ ลิว รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้ออกมาเตือนว่า หนี้สินของรัฐบาลกลางสหรัฐจะพุ่งแตะเพดานสูงสุดที่ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ภายในกลางเดือนต.ค.นี้ พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐสภาเพิ่มอำนาจการกู้ยืมเงินของรัฐบาลในช่วงเวลาที่เหมาะสม