ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่า จากคาดการณ์ชัตดาวน์หนุนเฟดเลื่อนหั่น QE

ข่าวต่างประเทศ Friday October 4, 2013 07:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า การปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐอาจจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เลื่อนเวลาในการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 97.23 เยน จากระดับของวันพุธที่ 97.39 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8995 ฟรังค์ จากระดับ 0.9028 ฟรังค์

ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3621 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3581 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.6159 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6221 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.9402 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9385 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะเลื่อนเวลาการลดขนาด QE เนื่องจากสหรัฐต้องปิดหน่วยงานของรัฐบาลเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี หลังจากสภาคองเกรสยังไม่สามารถประนีประนอมกันได้เกี่ยวกับร่างงบประมาณชั่วคราวได้จนถึงขณะนี้ ขณะที่เจพี มอร์แกนประเมินว่าการชัตดาวน์เป็นเวลา 1 สัปดาห์จะทำให้อัตราการขยายตัวรายไตรมาสของจีดีพีที่แท้จริงลดลง 0.12% และอาจจะมีผลกระทบมากขึ้นต่อความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของผู้บริโภค

ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ร่วงลงสู่ระดับ 54.4 จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 58.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี โดยดัชนี ISM ภาคบริการเดือนก.ย.ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 57.4 เนื่องจากยอดสั่งใหม่และตัวเลขการจ้างงานในภาคบริการหดตัวลง

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจยูโรโซน โดยผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซนในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 52.2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 27 เดือน จาก 50.7 ในเดือนส.ค. และเมื่อเทียบกับการประเมินเบื้องต้นที่ 52.1 ซึ่งดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงกิจกรรมภาคบริการของภูมิภาคยูโรโซนมีการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า

ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคบริการของยูโรโซนในเดือนก.ย.ได้เน้นย้ำให้เห็นว่าเศรษฐกิจยูโรโซนฟื้นตัวเร็วขึ้น หลังจากที่หลุดพ้นจากภาวะถดถอยที่ยืดเยื้อยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์

ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของยูโรโซนในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.7% เทียบรายเดือน หลังจากปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. อย่างไรก็ตาม หากเทียบรายปี ยอดค้าปลีกใน 17 ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร หดตัวลง 0.3% จากเดือนส.ค.ปีที่แล้ว

ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้านั้นได้รับแรงหนุนจากยอดขายพลังงานที่พุ่งขึ้น 0.9% และยอดขายสินค้านอกกลุ่มอาหารที่ดีดตัวขึ้น 0.6%

ส่วนสหภาพยุโรป หรืออียู ที่มีสมาชิก 28 ประเทศนั้น ยอดค้าปลีกในเดือนส.ค.ปรับขึ้น 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก่อนหน้า และหากเทียบรายปี ยอดค้าปลีกขยายตัว 0.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ