ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.14 เยน จากระดับของวันพุธที่ 97.37 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9105 ฟรังค์ จากระดับ 0.9104 ฟรังค์
ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3535 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3520 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.5978 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5956 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะ 0.9459 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9448 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นขานรับข่าวที่ว่า จอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า พรรครีพับลิกันจะผ่านกฎหมายเพื่อขยายเพดานหนี้ชั่วคราว หากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ตกลงที่จะเจรจาเกี่ยวกับการยุติภาวะชัตดาวน์ รวมถึงปัญหาเร่งด่วนอื่นๆของประเทศ
โบห์เนอร์กล่าวด้วยว่า เขาจะแต่งตั้งผู้เจรจาประจำสภาผู้แทนฯ เพื่อพยายามแยกแยะข้อแตกต่างระหว่างร่างงบประมาณของสภาผู้แทนฯ กับร่างของวุฒิสภา สะท้อนให้เห็นว่าแกนนำส.ส.รีพับลิกันแสดงท่าทีประนีประนอมที่จะเพิ่มเพดานหนี้ระยะสั้น เพื่อให้สหรัฐรอดพ้นจากผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ทั้งนี้ ประธาธิบดีโอบามาได้ประชุมร่วมกับแกนนำพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรที่ทำเนียบขาว เพื่อหาทางยุติการเผชิญหน้าทางการเมืองที่ส่งผลให้ต้องมีการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลกลางเป็นสัปดาห์ที่สองแล้ว ขณะที่นายเจคอป ลิว รมว.คลังสหรัฐกล่าวว่า "หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ ก็จะทำให้ไม่มีความคืบหน้าใดๆเกิดขึ้น นี่จึงเป็นเหตุผลทำให้ประธานาธิบดีโอบามาเรียกร้องให้สภาคองเกรสเพิ่มเพดานหนี้ และคองเกรสก็จะต้องดำเนินการโดยเร็ว"
ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวช่วยให้สกุลเงินดอลลาร์สามารถต้านทานปัจจัยลบจากรายงานที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 ต.ค. เพิ่มขึ้น 66,000 ราย มาอยู่ที่ 374,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. เนื่องจากการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลกลางส่งผลให้ต้องมีการเลิกจ้างพนักงานสัญญาจ้างส่วนหนึ่ง นักลงทุนจับตาดูดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนต.ค.ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้เวลา 20.55 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะลดลงอยู่ที่ 76.0 ในช่วงต้นเดือนต.ค. จากระดับ 77.5 ของช่วงท้ายเดือนก.ย.