ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบสกุลเงินหลักๆ หลังเฟดเดินหน้า QE

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 31, 2013 07:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งล่าสุด

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.58 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 98.11 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8998 ฟรังค์ จากระดับ 0.8986 ฟรังค์

ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3727 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3748 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.6016 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6047 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 0.9466 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9481 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0-0.25% ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ (30 ต.ค.) พร้อมประกาศว่าจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจและการจ้างงาน

ทั้งนี้ เฟดระบุว่า เฟดต้องการรอดูหลักฐานที่ชัดเจนมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจะมีความคืบหน้าอย่างยั่งยืน ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนขนาดวงเงินซื้อพันธบัตร

นอกจากนี้ เฟดยืนยันว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ตราบใดที่อัตราว่างงานยังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับ 6.5% และอัตราเงินเฟ้อรายปีอยู่ต่ำกว่าระดับ 2.5%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีผลต่อความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อวานนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค. แต่อัตราเงินเฟ้อยังไม่ส่งสัญญาณอันตราย จึงเปิดโอกาสให้เฟดสามารถดำเนินโครงการซื้อพันธบัตรรายเดือนต่อไปได้

ขณะที่ ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 130,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่ง

นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ต.ค.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ 339,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 350,000 ราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ