ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 100.23 เยน จากระดับ 100.04 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9152 ฟรังค์ จากระดับ 0.9163 ฟรังค์
ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3490 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3456 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.6112 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6056 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.9361 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9318 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากนางเยลเลนแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐว่า การผ่อนคลายทางการเงินในปัจจุบันควรดำเนินต่อไปในขณะนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเฟดจะยังเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป
ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะยังไม่ปรับลดขนาดการใช้มาตรการ QE ในระยะใกล้นี้ เมื่อพิจารณาจากถ้อยแถลงครั้งล่าสุดของนางเยลเลนที่ว่า เฟดจะประเมินว่ามีความคืบหน้าในตลาดแรงงานหรือไม่ ซึ่งแม้ปัจจุบันนี้เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก แต่อัตราว่างงานที่ 7.3% ในเดือนต.ค.นั้นเป็นระดับที่สูงเกินไป ซึ่งสะท้อนถึงตลาดแรงงานและเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอ
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐ โดยสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 0.4% จากเดือนส.ค.ที่เพิ่มขึ้น 0.8% แต่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม ซึ่งรวมการผลิตที่โรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค ลดลง 0.1% ในเดือนต.ค. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนก.ย.